+1
ราชันย์แห่งแว่นตาโบรว์ไลน์-นายกสโมสร กระดองเต่าแท้-GENUINE TORTOISE SHELL GLASSES วัสดุธรรมชาติล้ำค่าจากท้องทะเล มือหนึ่ง สต็อกเก่าต้นทศวรรษ1970 กรอบทองโกลด์ฟิลด์ 12K สัดส่วนทองคำบริสุทธิ์50% เลนส์กระจกคริสตัลญี่ปุ่น ออฟแธลมิค โดย ซันโค สีน้ำตาลอ่อน–โกลเดนร็อด มองเห็นดวงตาผู้สวมใส่ ขนาดมาตรฐาน 141mm
กรุงเทพ
รายละเอียดสินค้า
- หมวดหมู่หลัก
- ชนิดเสื้อผ้า และ อุปกรณ์ความปลอดภัย
- จังหวัดที่ตั้งสินค้า
- สภาพ (ของใหม่ / มือสอง)สินค้าใหม่
- ยี่ห้อGENUINE TORTOISE SHELL GLASSES
- ชื่อรุ่น12K GF
ข้อมูลเพิ่มเติม
ปกิณกะแว่นตา บทที่ ๔๐ : กระดองเต่า อินทรีย์สารล้ำค่าจากมหาสมุทร สิ่งตกค้างทางประวัติศาสตร์จากยุคเอโดะ ถึง โชวะ¹ จากราชวงศ์ออร์เลอ็อง ถึง สาธารณรัฐฝรั่งเศส เจ้าคุณทิพย์ : เขียน โลกค้นพบความงดงามของลวดลายบนกระดองเต่าครั้งแรก ผ่านสายตาชาวกรีกโบราณเมื่อราวศตวรรษที่ 5 ก่อนคริสต์ศักราช พวกเขานำมันมาประดิษฐ์เป็นเครื่องสายประเภทพิณ อาทิ เชลีย์ (Chelys) และ ไลร์ (Lyre) ซึ่งนอกจากความสวยงามแล้ว สุ้มเสียงของมันยังไพเราะอย่างน่าอัศจรรย์ สอง–สามศตวรรษต่อมา ชาวโรมันผู้มั่งคั่งนิยมใช้กระดองเต่าสลักเป็นอินเลย์ (Inlay) ประดับประดาเตียงนอน โซฟา ชุดโต๊ะเก้าอี้รับประทานอาหารที่หรูหรา ความนิยมกระดองเต่าแพร่หลายทั้งในซีกโลกตะวันตกและตะวันออก คนโบราณมักเอามันมาทำหวี กรอบรูป นาฬิกาแขวนผนัง เข็มกลัด ผอบ กล่องใส่เครื่องถนิมพิมพาภรณ์ ฯลฯ ผ่านมาศตวรรษที่ 18 (1701–1799) อ็องเดร ชาร์ลส์ บูลเล่ (André Charles Boulle AD1642–1732) หัวหน้าช่างหัตถศิลป์เครื่องประดับเฟอร์นิเจอร์ (Furniture Jeweller) แห่งราชสำนักฝรั่งเศส ร่ายมนตราหรูหราลงบนตู้ ตั่ง เตียง ให้แก่พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ด้วยการตกแต่ง 'มุก' ผสมผสาน 'กระดองเต่าสีทอง' จัดหนักถวายงานชนิดไม่ยั้งมือ ในแบบที่เรียกขานกันต่อมาว่า 'บูลเล่–เวิร์ก' (Boulle Work) ผลงานของบูเล่ เสริมส่งให้พระราชวังแวร์ซายเป็นที่เชิดหน้าชูตาแก่ราชวงศ์ออร์เลอ็อง ก่อนที่ระบอบราชาธิปไตยฝรั่งเศสจะล่มสลายด้วยการปฏิวัติประชาชน (Révolution Française) ในปี ค.ศ. 1792 อย่างไรก็ตาม บูลเล่–เวิร์กนี่เอง ที่ปูหนทางให้ 'กระดองเต่า' อินทรีย์สารล้ำค่าจากมหาสมุทร เคลื่อนตัวเข้าสู่กระแสวัฒนธรรมฝรั่งเศส ก่อนจะรังสรรค์ขึ้นเป็นกรอบแว่นตาอันลือลั่นในอีกหนึ่งร้อยปีต่อมา ปลายศตวรรษที่ 18 ถึงต้นศตวรรษที่ 19 ณ เมืองโมเนซ (Monez) แถบเทือกเขาจูรา (the Jura Mountains) ดินแดนที่เปรียบได้กับ ราชธานีแห่งแว่นตาของฝรั่งเศส² ช่างฝีมือสกุลโมเนซใช้กระดองเต่าที่นำเข้าโดยนักเดินเรือชาวโปรตุเกส ผลิตขึ้นเป็นกรอบแว่นตา แต่เนื่องจากเป็นวัตถุดิบหายาก ราคาแพง กระบวนการผลิตซับซ้อนหลายขั้นตอน กรอบแว่นตากระดองเต่าส่วนใหญ่จึงเป็นสินค้าสั่งทำ (Custom Made) จำกัดอยู่ในแวดวงชนชั้นสูง จวบจนทศวรรษ 1920 หลังสงครามโลกครั้งที่ 1 เศรษฐกิจโลกกลับมาเติบโตอีกครั้ง จากผลพวงสำคัญของการพัฒนาทางเทคโนโลยี ภาคธุรกิจผลิตและจำหน่ายสินค้าได้มากขึ้น รสนิยมการบริโภคของผู้คนแปรเปลี่ยนไป แว่นตาที่แต่เดิมเป็นเพียง 'เครื่องใช้' ก็กลายเป็น 'เครื่องประดับ' เพื่อเสริมสร้างบุคลิกและสถานภาพทางสังคม เหตุนี้เอง แว่นตากระดองเต่าที่ถูกมองเป็นของฟุ่มเฟือย ก็ตอบโจทย์อย่างเต็ม ๆ ให้แก่เหล่าเซลิบริตี้ และผู้คนในโลกใหม่ที่ต่างไขว่คว้าภาพลักษณ์ที่เหนือธรรมดา ทศวรรษที่ 1920s–50s คือยุคเฟื่องฟูของแว่นตากระดองเต่าแท้ ใช่แล้ว มันยืนระยะอยู่แค่ 30 ปี เนื่องเพราะความทรุดตัวทางเศรษฐกิจหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 และการเข้ามาแทนที่อย่างมีนัยยะสำคัญในทศวรรษที่ 1950 ของ 'อะซีเทต' (Acetate) พลาสติกที่งดงาม คุณภาพสูง ลวดลายคล้ายกระดองเต่า ที่เมื่อนำมาทำเป็นแว่นตากระดองเต่า (เทียม) แล้ว ราคาต่ำกว่ากระดองเต่าแท้ถึง 50 เท่า โอ พระเจ้า.. ผู้ผลิตแว่นตากระดองเต่าแท้ต้องได้รับผลกระทบแน่นอน ในรายที่สามารถยืนหยัดอยู่ได้ ก็คือผู้ผลิตแถวหน้าที่มีชื่อเสียง ซึ่งผลิตแว่นตาระดับเลิศหรูสั่งทำเฉพาะบุคคล ตัวอย่างเช่น 'เมซอง บองเนต์' (Maison Bonnet) ผู้ผลิตแว่นตาเก่าแก่ 4 ชั่วอายุคนแห่งเมืองโมเนซ ผลิตแว่นตากระดองเต่าแท้สั่งทำพิเศษสำหรับบุคคลระดับประมุขของรัฐ อาทิ ประธานาธิบดีฟรองซัวส์ มิตแตรองด์, ประธานาธิบดีจาคส์ ชีรัก และบุคคลมีชื่อเสียงอื่น ๆ เช่น อีฟส์ แซงท์ โลรองต์, โอนาสซิส–แจ็กเกอลีน เคนเนดี ฯลฯ จากที่เคยมีช่างฝีมือในสังกัด 200 คน ก็ยังต้องลดจำนวนลงเหลือแค่หลักสิบ เป็นต้น ว่ากันในส่วนซีกโลกตะวันออก แว่นตากระดองเต่าของญี่ปุ่น ถือกำเนิดในช่วงรอยต่อระหว่างยุคเอโดะ (Edo Jidai : 1603–1868) กับ ยุคเมจิ (Meiji : 1868–1912) อันเป็นห้วงเวลาแห่งความรุ่งเรืองของศิลปวัฒนธรรม นวนิยาย ละครคาบูกิ และสถาปัตยกรรมญี่ปุ่นยุคก่อนสงคราม เดิมทีแหล่งผลิตที่มีชื่อเสียงที่สุดอยู่ในเมืองเก่าเอโดะ (ปัจจุบันคือโตเกียว) ต่อมาจึงเกิดขึ้นอีกแห่งในเมืองนางาซากิ โดยทั้งสองแหล่งผลิตนี้ ถือเป็นถิ่นชุมนุมช่างฝีมือกระดองเต่าที่สั่งสมภูมิปัญญาและองค์ความรู้สืบเนื่องยาวนานมานับศตวรรษ มีสายพันธุ์เต่ากระดองที่ดีที่สุดเพียงหนึ่งเดียวในโลกเท่านั้น ที่ช่างฝีมือโบราณ (ทั้งฝรั่งเศสและญี่ปุ่น) ใช้ทำกรอบแว่นตา นั่นคือ 'เต่ากระ' (Hawksbill Turtle) หรือญี่ปุ่นเรียกว่า 'เบ็กโกะ' (Bekko) เป็นสายพันธุ์หายากที่ใกล้สูญพันธุ์ขั้นวิกฤตที่สุด พบได้ในมหาสมุทรเขตร้อน แม้แต่ญี่ปุ่นและฝรั่งเศส สองประเทศมหาอำนาจแห่งแว่นตากระดองเต่า ก็ยังต้องนำเข้าจากคิวบา หมู่เกาะโซโลมอน และอินโดนีเซีย คุณสมบัติโดดเด่นก็คือ ความโปร่งใส เรืองแสง สวยงามลึกซึ้งเป็นที่สุดเมื่ออยู่ 'ท่ามกลาง' หรือ 'มองผ่าน' แสงไฟ ลวดลายมีอัตลักษณ์เฉพาะตัว ไม่ซ้ำกัน แต่ละชิ้นงานมีหนึ่งเดียวในโลก นอกจากนั้นก็คือ ความเป็นอินทรีย์สาร (Organic) ที่มีผิวสัมผัสนุ่มนวลและอ่อนโยนเป็นพิเศษ กระดองเต่า 1 ตัวประกอบด้วย 13 ชิ้นส่วนที่มีรูปทรงแตกต่างกัน กระดองหยัก (Jagged Shell) ที่อยู่กึ่งกลางด้านหลัง เป็นชิ้นส่วนสำคัญที่แพงที่สุด ญี่ปุ่นเรียกว่า 'สึเมะ' (Tsume) สามารถนำมาทำเป็นกระดองเต่าสีน้ำตาลอ่อน หรือเรียกอีกอย่างว่า 'กระดองเต่าสีน้ำผึ้ง' (Honey Tortoise Shell) กระดองเต่า 9 ใน 10 ตัวเป็นสีดำ (Blackish) มีเพียง 1 ตัวเท่านั้นเป็นสีขาว (Whitish) และกระดองเต่าอายุน้อยกว่า 10 ปี ไม่สามารถนำมาใช้ในงานหัตถศิลป์ได้อย่างมีคุณภาพ ในส่วนของกระบวนการผลิตแว่นตากระดองเต่า มีรายละเอียดซับซ้อนและพิถีพิถันอย่างยิ่ง เริ่มจากแยกชั้นของแต่ละชิ้นส่วนออกจากกระดองด้วยความร้อน และทำให้เนื้อสารนิ่มลงโดยการต้มในน้ำเกลือ กดทับให้แบนราบจากการรีดด้วยความร้อนจัด ทุกขั้นตอนที่ว่ามาต้องระมัดระวังอย่างยิ่ง เพื่อมิให้สีสันเดิมแปรเปลี่ยนไป มิพักต้องพูดถึงการขึ้นชิ้นงานด้วยมือ และเทคนิคการขัดผิว ที่ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญเฉพาะทางของช่างฝีมือในศิลปะด้านนี้โดยตรง เดือนกันยายน ค.ศ.1973 'ไซเตส' หรือ 'อนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้จะสูญพันธุ์' (the Convention on International Trade in Endangered Species : CITES) ลงนามโดยภาคี 184 ฝ่าย ครอบคลุม 154 ประเทศ ประกาศให้การค้ากระดองเต่าเป็นสิ่งผิดกฎหมาย ส่งผลให้การผลิตแว่นตากระดองเต่ามีพื้นที่จำกัด³ กระทั่งลดจำนวนลงจนแทบจะหมดสิ้น⁴ ปัจจุบัน แว่นตากระดองเต่าแท้ (Genuine Tortoise Shell Glasses) ในสภาพสมบูรณ์ เป็นของหายากอย่างยิ่ง มีราคาสูงมาก นับเป็นสิ่งตกค้างล้ำค่าทางประวัติศาสตร์จากยุคเอโดะถึงโชวะ ; จากราชวงศ์ออร์เลอ็องถึงสาธาณรัฐฝรั่งเศส ที่น้อยคนนักจะมีโอกาสได้ครอบครอง⁵ หรือแม้แต่พบเห็นก็ตาม. _________ ¹ ยุคโชวะ (Showa Era) คือการนับช่วงยุคหนึ่งในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น ในรัชกาลของสมเด็จพระจักรพรรดิฮิโระฮิโตะ (Hirohito Emperor : Showa AD1901–1989) เริ่มตั้งแต่ ค.ศ.1926 จนถึง 1989 ถือเป็นห้วงเวลาฟื้นฟูประเทศหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 กระทั่งก้าวสู่การเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจ การค้า และเทคโนโลยีในปัจจุบัน ² อ่านเรื่องราวได้จากคอลัมน์ 'ปกิณกะแว่นตา บทที่ ๙ : ลามี่ (L'AMY) แว่นตาประวัติศาสตร์แบรนด์แรกของฝรั่งเศส' และคอลัมน์ 'ปกิณกะแว่นตา บทที่ ๒๕ : แว่นตา 'โมเรล' ศิลปกรรมฤดูหนาวของเกษตรกรช่างฝีมือชาวฝรั่งเศส' ในเพจ : แว่นตา ของวินเทจ เจ้าคุณทิพย์ ³ สิบห้าปีหลังอนุสัญญาไซเตส ช่างฝีมือกระดองเต่าชาวญี่ปุ่นกลุ่มหนึ่ง ร่วมกันทำฟาร์มเพาะเลี้ยงเต่ากระดองที่เกาะอิชิงากิ เมืองโอกินาวา คาดว่ากระดองของเต่าเลี้ยงเหล่านี้ จะสามารถนำมาใช้งานได้ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ⁴ ในประเทศฝรั่งเศสยังคงอนุญาตให้ใช้ กระดองเต่ากระ ที่มีอยู่แล้ว (Only Existing Shell) เท่านั้น ในการผลิตกรอบแว่นตา ทั้งนี้สต็อกทั่วโลก ณ ปัจจุบันลดน้อยลงอย่างมาก ⁵ บุคคลชั้นนำของโลกที่นิยมสวมใส่แว่นตากระดองเต่าแท้ ได้แก่ อัครมหาเศรษฐีโลก อริสโตเติล–แจ็กเกอลีน โอนาสซิส เคนนเนดี, ดีไซเนอร์ระดับตำนาน อีฟส์ แซงท์ โลรองต์, ประธานาธิบดีฟรองซัวส์ มิตแตรองด์, ประธานาธิบดีฝรั่งเศส จาคส์ ชีรัค ฯลฯ □■□■□■□■□ Rare Find 100%Authentic Vintage GENUINE TORTOISE SHELL NOS (New Old Stock : 1970s) 12K GF 1/20 54 □ 17 142 Gold Filled Frame 12K Genuine Tortoise Shell Brow & Temple Tip Weight 44g Classic Square Ronsir / Browline / Clubmaster Model Rare Beautiful Vintage OPHTHALMIC Goldenrod Brown Tinted Crystal Lenses Sanko Lens Industrial Co., Ltd. UV Protection 100% Handcrafted in the Early of 1970 in Japan มือหนึ่ง 'แว่นตากระดองเต่าแท้' (Genuine Tortoise Shell Glasses) ★★★ ราชันย์แห่งแว่นตาโบรว์ไลน์–นายกสโมสร ★★★ อลังการงานสร้างต้นทศวรรษที่ 1970 โดยช่างฝีมือชาวญี่ปุ่น ชนชาติที่มีประวัติศาสตร์การสร้างแว่นตายาวนานถึง 151 ปี ★★★ 1 ใน 2 ชนชาติ (ญี่ปุ่น และ ฝรั่งเศส) ที่เชี่ยวชาญที่สุดในการสร้างกรอบแว่นตากระดองเต่าแท้ _________ ■★■ สนธิกำลังกับ เลนส์กระจกคริสตัลคุณภาพสูงของญี่ปุ่น 'วินเทจ–ออฟแธลมิค' (Vintage Ophthalmic Lens) โดย 'ซันโค เลนส์ อินดัสเธรียล' (Sanko Lens Industrial Co., Ltd.) ก่อตั้งในปี ค.ศ.1948 ณ เมืองคาซามะ ประเทศญี่ปุ่น ปัจจุบันคือ ซันโคกรุ๊ป (Sanko Group) ■★■ ■□■ ประเภท 'นอส' (NOS / New Old Stock : 1970s) เก็บในสต็อกเก่าประเทศญี่ปุ่นต้นทศวรรษ 1970 ■□■ สภาพเทพ / ไม่เคยใช้งานมาก่อน ■□■ ชุมนุม 2 ที่สุดไว้ในหนึ่งเดียว : ■ 1》 คิ้ว (Blow) สร้างจากวัสดุธรรมชาติล้ำค่าแห่งท้องทะเล 'กระดองเต่าแท้' (Genuine Tortoise Shell) คลาสสิค–หายากที่สุด ! ★ แข็งแรง คงทน ไม่บิดงอ ไม่แปรเปลี่ยนรูปทรงในทุกวิถีทาง ★ ไม่ทำปฏิกิริยาระคายเคืองต่อผิวหนังมนุษย์ ★ ลวดลายและสีสันแบบ 'ฮาวานา' (Havana) ในเนื้อกระดอง งดงาม เหนือชั้นกว่าวัสดุเทียบเคียงทุกชนิด ■ 2》 กรอบ (Eyerim) มุมแว่น (End Piece) คาน (Bridge) และ ก้านขา (Temple) สร้างจากวัสดุ 'ดี' ที่สุดและ 'ล้ำค่า' ที่สุดในการผลิตกรอบแว่นตา ★ 'ทองคำแท้–หุ้ม' (Gold Filled) 12K ★ สัดส่วนทองคำบริสุทธ์ 50% ★ ค่าน้ำหนักทองคำ : โลหะกรอบ = 1 : 20 ล้นพิกัด มาตรฐานสูงสุด ★ ทองเต็ม ! บริสุทธิ์ผุดผ่อง ! สุกสกาววาววับ ! ปราศจากริ้วรอย ! ■□■ วัสดุทุกชิ้นส่วนออริจินัล เดิม ๆ 100% ไม่เว้นแม้กระทั่งน็อตทุกตัว ★ ไม่มีชุบ ไม่มีเชื่อม ไม่มีซ่อม ไม่มีการดัดแปลงใด ๆ ทั้งสิ้น ★ องคาพยพทุกส่วนสมบูรณ์แบบ ★ สิริมายุ (ในสต็อก) 50 ปี ■□■ ความกว้างโดยรวม 141 mm (ขนาดมาตรฐาน / Standard Size) ; ขนาดเลนส์ 54 mm ; ความสูงเลนส์ 40 mm ; ความยาวขา 145 mm ★★★ ราคาแว่นตากระดองเต่า–ทองโกลด์ฟิลด์ 12 K ในประเทศญี่ปุน https://page.auctions.yahoo.co.jp/jp/auction/k1060814441 กรอบเปล่า ๆ ไม่มีเลนส์ ปาเข้าไป 110,000 เยน (27,640.70 บาท) อะจ๊ากก.. ! ★★★ ไม่เป็นไร.. ดวงจิต ไอ้แผน มันสงบระงับเสียแล้ว ขายราคาตามประสาผู้ยิ่งเล็ก เหมียน.. เดิม ! ★★★ 7,500 บาท (ราคาเน็ต / Net Price) ★★★ ประหยัดขั้นต่ำทันที (ไม่นับเลนส์กระจกคริสตัลออฟแธลมิค) มากกว่า 20,000 บาท !! โอว มาย ก็อดด.. !! ★★★ พร้อมกล่องฮาร์ดเคส และ ผ้าเช็ดแว่นตาไมโครไฟเบอร์ อีกต่างหาก ! ★★★ สนใจติดต่อ : เจ้าคุณทิพย์ โทร 085 xxxx xxx ★★★ หรือ Line ID : chaokuntip ★★★ หรือ facebook เพจ : แว่นตา ของวินเทจ เจ้าคุณทิพย์ ■□■ ขอบคุณมากครับ
แก้ไขล่าสุดเมื่อ : 8/5/2566
สร้างเมื่อ : 7/5/2566
เลขที่ประกาศ :e3lBwAVdL6
฿ 7,500