1. /
    หมวดหมู่สินค้าทั้งหมด
  2. /
    รถบรรทุก
  3. /
    4ล้อ (สี่ล้อใหญ่)
  4. /
    หางก้างปลา
  5. /
    นครศรีธรรมราช

เลขไมล์ การใช้งาน

-

รถบรรทุก 4ล้อ (สี่ล้อใหญ่) หางก้างปลา นครศรีธรรมราช มือสอง

0 รายการ

ช่วงราคา
-
ปีจดทะเบียน
-
เรียงตาม

ล้างตัวกรอง

หางก้างปลา
นครศรีธรรมราช
สินค้าหมด

ยังไม่มีสินค้า “รถบรรทุก 4ล้อ (สี่ล้อใหญ่) หางก้างปลา นครศรีธรรมราช มือสอง” ลงขายในขณะนี้

รถบรรทุก 4ล้อ
หางก้างปลา
นครศรีธรรมราช
กรุณากลับมาค้นหาอีกครั้งในภายหลัง หรือ ให้ทีมงานของเราช่วยหาสินค้า คลิกเลย!

เปรียบเทียบ รถบรรทุก 4 ล้อ ไม่ติดเวลา HINO 300 ATOM และ ISUZU ELF NLR

รถบรรทุก 4 ล้อ เป็นรถบรรทุกกลุ่มที่เติบโตได้ดีมากในช่วงสามถึงสี่ปีหลัง ด้วยการเติบโตของธุรกิจ e-commerce ที่มักจะใช้รถประเภทนี้ในการขนส่งเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็น รถใหม่ หรือ รถมือสอง ก็ตาม ด้วยความสามารถที่วิ่งได้ตลอดเวลา ไม่ติดกฏจราจร และส่วนมากลูกค้ากลุ่มที่ซื้อของออนไลน์ก็อยู่ตามเมืองใหญ่ๆต่างๆเป็นจำนวนมากอยู่แล้วด้วย

นอกจากในธุรกิจค้าขายออนไลน์แล้วการเติบโตของร้านสะดวกซื้อก็เป็นอีกส่วนหนึ่งที่ทำให้รถประเภทนี้เป็นที่สนใจมากยิ่งขึ้น เพราะการมีของพร้อมขายตลอดเวลาคือปัจจัยสำคัญ ทำให้การส่งของให้ได้ตลอดเวลาคือเรื่องสำคัญมากๆสำหรับธุรกิจกลุ่มนี้

โดย 2 แบรนด์หลักที่ขายรถในกลุ่มนี้ก็คงหนีไม่พ้น ISUZU และ HINO ที่เป็นเจ้าตลาดในกลุ่มนี้ โดย ISUZU ELF หรือ ISUZU NLR 130 แรง ทำยอดขายได้ดีมากกว่า HINO 300 ATOM หรือ มาโดยตลอด และ ยิ่งตั้งแต่ปี 2018 เป็นต้นมา อีซูซุก็ทำยอดขายยิ่งฉีกออกไปอีกด้วยการที่ปล่อยโมเดลใหม่ King of Truck ออกมาตีตลาดในช่วงปีนั้น โดยส่วนแบ่งตลาดในปี 2021 นั้นอยู่ที่ อีซูซุ 73% และ ฮีโน่ 27% นับว่าอีซูซุเองก็เป็นเจ้าตลาดใน รถบรรทุกสี่ล้อ มาโดยตลอดจริงๆ แต่ทางฮีโน่เองก็ไม่เคยปล่อยให้ตลาดผูกขาดและยังมียอดขายที่อยู่ในระดับที่เพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆเช่นกัน

Truck2Hand จะพาทุกท่านลงลึกไปด้วยกันกับเรา เจาะลึกเปรียบเทียบเสป็คกันแฟร์ๆ ด้วยข้อมูลจริงจากทั้งสองแบรนด์ โดยเฉพาะรถรุ่นปัจจุบันในตลาด HINO ATOM300 และ ISUZU NLR130 ไปชมกันครับ

รถบรรทุก 4 ล้อ HINO 300 ATOM

ราคารถมือ1 เริ่มต้น 1,010,000 บาท (ราคาดังกล่าวเป็นราคารถเปล่า)

เริ่มต้นกันที่ HINO ATOM300 กันก่อนนะครับ เราไปดูกันว่าสเปครถล่าสุดของฮีโน่เป็นอย่างไรบ้างครับ

สนใจดู รถบรรทุกสี่ล้อไม่ติดเวลา มือสอง ฮีโน่ ได้ที่นี่ รถมือสอง

ทำไม HINO 300 ATOM ถึงเป็นที่น่าสนใจ

HINO ATOM 300 หรือ รถบรรทุกฮีโน่รหัสรุ่น XZU-4W รถบรรทุกสี่ล้อ ที่ออกแบบออกมาเพื่องานขนส่งที่สามารถทำได้ตลอด 24 ชั่วโมง และ สามารถจดทะเบียนรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคลได้ โดยตัวรถมีน้ำหนักเบา มี GVW(น้ำหนักรวมสูงสุด) อยู่ที่ 4.5 ตันเท่านั้น พร้อมด้วยขนาดล้อ 15 นิ้วโดยมียางติดรถเป็นขนาด 225/75 R15

รถบรรทุก 4 ล้อ Hino

สำหรับรถรุ่นนี้สามารถจดทะเบียนในพิกัด 2.2 ตันได้ โดยทำให้รถประเภทนี้สามารถวิ่งได้ตลอด 24 ชั่วโมงเช่นเดียวกับรถกระบะ แต่ขนของได้มากกว่ารถกระบะคร่าวๆราวสองเท่า

แน่นอนว่าจุดประสงค์ในการเลือกซื้อรถฮีโน่ 300 อะตอม นั้นใช้เพื่องานขนส่งสินค้าอุปโภคบริโภคเป็นหลัก ทำให้ไลน์อัพของรถรุ่นนี้จะมีออฟชั่นสำหรับติดตั้งตู้จากทางฮีโน่เองเลยด้วย โดยตู้จะมีสองขนาดให้เลือกด้วยกัน

สเปคของรถ HINO 300 ATOM

ในส่วนของ HINO 300 ATOM นั้นทางฮีโน่เน้นในการโปรโมทเรื่องของการประกอบตู้จากโรงงาน ด้วยวุสดุคุณภาพ เพราะการใช้งานหลักของรถกลุ่มนี้คือการขนส่งด้วยตู้แห้ง โดยฮีโน่จะประกอบตัวถังให้สำเร็จในเวลาอันสั้น พร้อมการรับประกันตัวถังนาน 3 ปี

รถบรรทุก 4 ล้อ hino

สำหรับเครื่องยนต์ของ HINO 300 ATOM เป็นเครื่องยนต์ดีเซล N04C-VA ขนาด 4 ลิตร เทอร์โบอินเตอร์คูลเลอร์ 4 จังหวะ 4 สูบ เรียงตั้งแนวตรงพร้อมด้วยแรงม้า 136 แรงม้าที่ 2,500 รอบ/นาที

ส่วนเกียร์เป็นเกียร์ 5 สปีด รุ่น MYY5A ซึ่งเป็นเกียร์ตัวเดียวกันกับ รถหกล้อเล็กรุ่น HINO INNOVATOR 500 สำหรับระบบความปลอดภัยจะมีถุงลมนิรภัยที่ตำแหน่งของคนขับ และ ถังน้ำมันตัวติดรถจะมีขนาดความจุ 80 ลิตร

ส่วนตัวตู้บรรทุกนั้นสามารถติดตั้งจากโรงงานฮีโน่ได้สองแบบได้แก่ 10.53 ลูกบาศก์เมตร และ 9.31 ลูกบาศก์เมตร โดยวัสดุตัวพื้นตู้เป็นอลูมิเนียม พร้อมแผ่นกันกระแทก รางยึดสายรัดของ และพัดลมระบายอากาศ

รถบรรทุก 4 ล้อ ISUZU NLR130

มาดูที่ฝั่งเจ้าตลาดในรถกลุ่ม รถบรรทุกสี่ล้อไม่ติดเวลา อย่าง ISUZU กันบ้างนะครับ ในรุ่นนี้มีชื่อรุ่นว่า ELF ที่เรียกกันติดปากมาหลายสิบปี ด้วยความที่เป็นรถที่ใช้งานง่ายและประหยัดน้ำมัน โดยปัจจุบัน ISUZU NLR รุ่นเล็กนี้มีให้เลือกสองรุ่นด้วยกันคือ NLR 130 และ NLR Lite

ดูรถบรรทุก 4ล้อ (สี่ล้อใหญ่) ISUZU มือสอง

ISUZU NLR 130 รถบรรทุก 4 ล้อ

ทำไม รถบรรทุก 4 ล้อไม่ติดเวลา ISUZU ELF NLR ถึงเป็นที่นิยมมายาวนาน

ปัจจุบันนี้ รถบรรทุก 4 ล้อ ISUZU NLR มีวางขายอยู่สองรุ่นย่อย ได้แก่ NLR 130 และ NLR Lite โดยทั้งสองรุ่นมีความโดดเด่นที่เรื่องการขนส่งได้แบบไม่ติดเวลา และที่สำคัญคือเครื่องคอมมอนเรลของอีซูซุยังเป็นเครื่องที่วางใจได้เสมอ ทั้งความเสถียรและการประหยัดน้ำมัน สำหรับรถ NLR นั้นสามารถบรรทุกได้ 2 ตัน หรือเท่ากับกระบะตอนเดียวสองคัน และสามารถทำพื้นที่บรรทุกได้ที่ 9.26 ตารางเมตร ส่วนปริมาตรก็คิดตามความสูงตู้แล้วคูณด้วยพื้นที่บรรทุกได้เลยครับ

โดยสรุปคือ รถบรรทุก 4 ล้อไม่ติดเวลา ISUZU ELF NLR เหมาะสมกับการขนส่งสินค้าโดยเฉพาะในเมืองใหญ่ๆเป็นอย่างมากโดยเฉพาะปัจจุบันที่ธุรกิจ E-Commerce โตอย่างต่อเนื่อง

ISUZU ELF
รูปภาพจาก https://truck.isuzu-tis.com/product/nlr

สเปคของรถบรรทุก 4 ล้อ ISUZU NLR 130

ราคาเริ่มต้น ISUZU NLR 130 รุ่นมาตรฐาน 977,000 บาท

รถบรรทุก 4 ล้อ ISUZU NLR 130

รถบรรทุก 4 ล้อ ISUZU NLR 130 นั้นมีการปรับโฉมครั้งล่าสุดคือใน Model King of Trucks ซึ่งชิงส่วนแบ่งการตลาดมาได้โดยตลอด โดย NLR 130 แรงม้านั้นใช้เครื่องวยนต์ 3.0 ลิตร ดีเซลเทอร์โบคอมมอนเรล รุ่น 4JJ1E3N คู่กันกับเกียร์รุ่น MYY5T ที่วัสดุเสื้อเกียร์อะลูมิเนียม น้ำหนักเบา แข็งแรง ระบายความร้อนได้ดี รับแรงบิดได้สูง ประหยัดน้ำมันเป็นเยี่ยม

สำหรับส่วนประกอบอื่นๆนั้นก็มี แอร์แบค ฝั่งคนขับ , กระจกไฟฟ้าฝั่งคนขับ , โช็คกันสะบัด และ ระบบเบรกไฮดรอลิค

ในส่วนของล้อติดจากโรงงานนั้นจได้เป็น อลูมิเนียมอัลลอยพร้อมยางเรเดียล ขอบ 15 ในรุ้น 225/75 R15

สุดท้ายคือเรื่องของวงเลี้ยว แน่นอนว่าสำคัญสำหรับการขับขี่ในเมืองมาก โดยในรุ่น NLR นั้นวงเลี้ยวแคบสุดเพียง 5.1 เมตร วงเลี้ยวแคบสุดเพียง 5.1 เมตร

สเปคของรถบรรทุก 4 ล้อ ISUZU NLR Lite

ราคาเริ่มต้น ISUZU NLR Lite รุ่นมาตรฐาน 932,000 บาท

รถบรรทุกสี่ล้อไม่ติดเวลา ISUZU NLR 130

ในส่วนของ ISUZU NLR Lite นั้นออกจำหน่ายในช่วงปี 2563 ด้วย เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบคอมมอนเรลขนาด 3.0 ลิตร 104 แรงม้า รหัส 4JH1E3N พร้อมด้วยเกียร์ 5 สปีด รุ่น เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบคอมมอนเรลขนาด 3.0 ลิตร MSB5S รองรับแรงบิดได้สูง ประหยัดน้ำมันเป็นเยี่ยม แข็งแกร่ง เหมาะสำหรับงานบรรทุก

ในส่วนของติดรถนั้นจะเหมือนกับรุ่น NLR 130 แทบทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นล้ออัลลอยจากโรงงาน กระจกไฟฟ้า เครื่องเล่นวิทยุ แอร์แบคฝั่งคนขับ

เปรียบเทียบรถบรรทุก 4 ล้อ HINO 300 ATOM และ ISUZU NLR

คราวนี้ลองมาเทียบกันดูนะครับ ว่าสองยี่ห้อนี้แตกต่างกันอย่างไรบ้าง แต่ขอไม่ยกเรื่องราคานะครับ เพราะราคาอาจจะเปลี่ยนแปลงได้แต่สเปคยังไงก็ไม่เปลี่ยนแปลงแน่ๆในเร็วๆนี้

เปรียบเทียบ เปรียบเทียบ รถบรรทุก 4 ล้อ HINO 300 ATOM และ ISUZU NLR

แรงม้า – ถ้ายกเรื่องกำลังมาคุยกัน จะเห็นว่า Hino Atom ให้ม้าที่เยอะกว่าอีซูซุอยู่เล็กน้อย ดูในเชิงตัวเลขแล้วอาจจะต่าง แต่ถ้าลองใช้จริงก็จะถือว่าใกล้เคียงมากๆ ยกเว้นรุ่น Lite ของ NLR เท่านั้นที่ออกแบบมาให้ได้ม้าน้อยกว่าอยู่แล้ว

น้ำหนัก – ส่วนในมุมของน้ำหนักรถเปล่ายังไม่รวมตู้ NLR Lite นั้นเบากว่าทั้ง Hino Atom และ ISUZU NLR130 อยู่เป็น 100 กิโลกรัมกว่าๆ ผลที่ตามมาคือเรื่องของน้ำหนักบรรทุกที่จะรับได้จริงเมื่อใช้งาน อย่าง NLR Lite ก็จะมีช่องว่างให้บรรทุกได้มากขึ้นอีก และแน่นอนว่ามีผลต่อการประหยัดน้ำมันเช่นกัน

รัศมีวงเลี้ยว – เนื่องจากเป็นรถที่ใช้งานในเมืองเป็นหลัก ซึ่งมีโอกาสต้องเลี้ยวตามซอกซอยบ่อยๆ จุดนี้จึงเป็นเรื่องที่ต้องพิจารณาถึงแม้ว่าทักษะการขับรถจะเป็นเรื่องสำคัญกว่า แต่การที่รถมีสมรรถนะให้ขับได้ง่ายก็ทำให้คนขับสะดวกเช่นกัน อย่าง ISUZU NLR ทั้งสองรุ่นมีรัศมีวงเลี้ยวที่ 5.1 เมตรทั้งคู่ ส่วน HINO ATOM ต่างกันเล็กน้อยที่ 5.5 เมตร

ระยะ CE – ระยะ CE หรือ Cab to End คือระยะตั้งแต่หลังหัวเก๋งจนถีงปลายชัสซี มีผลต่อเรื่องการต่อตู้และความยาวตู้ที่จะได้รับซึ่งของ HINO เองจะได้ความยาวที่มากกว่า 60 มิลลิเมตร หรือ ประมาณ 6 เซนติเมตร

+ + + + + + + + + + + +

สำหรับการเปรียบเทียบรถสองรุ่นที่เป็นที่นิยมตอนนี้อย่าง รถบรรทุกสี่ล้อไม่ติดเวลา ทั้ง ISUZU และ HINO ก็จบลงไปแล้วนะครับ ถึงแม้ว่า ISUZU เองจะนำโดดในเรื่องยอดขายแต่ในฝั่ง HINO เองก็ไม่เคยปล่อยให้ ISUZU ได้ตลาดนี้ไปโดยง่าย มีการแข่งขันกันเพื่อให้ผู้บริโภคได้สินค้าที่ดีไปใช้งาน

นอกจากเรื่องของรถใหม่แล้วนั้น เรื่องบริการหลังการขายก็ยังเป็นเรื่องที่เบียดกันมาเสมอ ส่วนถ้าอยากรู้ลึกลงไปอีกเรื่องราคาขายมือสองของรถทั้งสองยี่ห้อ ไว้เดี๋ยวจะหาเวลามาเล่าให้ฟังนะครับ

+ + + + + + + + + + + + + +

อัปเดตรถบรรทุก 6 ล้อ ใหม่ ISUZU FRR ปี 2022 มีอะไรเปลี่ยนไปบ้าง
ทำไม รถบรรทุก4ล้อ ถึงเป็นรถที่น่าลงทุนในยุคนี้ และ ในยุคที่การต่อสู้ของ ตลาดรถ รถบรรทุก และ รถมือสอง ดุเดือดนั้น ผู้ขายรถจะต้องปรับตัวอย่างไร คอยติดตามที่ Truck2Hand ได้เลยครับ

+ + + + + + + + + + + + + +

ที่มา
https://www.hinothailand.com/
https://truck.isuzu-tis.com/