1. /
    หมวดหมู่สินค้าทั้งหมด
  2. /
    รถบรรทุก
  3. /
    6ล้อ (หกล้อ)
  4. /
    ใหญ่
  5. /
    สองแถว

เลขไมล์ การใช้งาน

-

รถบรรทุก 6ล้อ (หกล้อ) ใหญ่ สองแถว มือสอง

32 รายการ

32 รายการ

ช่วงราคา
-
ปีจดทะเบียน
-
เรียงตาม

ล้างตัวกรอง

ใหญ่
สองแถว
รถ2แถว NQR120แรง
icon-open-in-new

รถ2แถว NQR120แรง

฿ 250,000
ISUZU
ปี 2547
icon-marker-outline
ปทุมธานี
icon-silver-ribbon
ขายด่วน รถโดยสาร 2 แถว ฟรีดาวน์ ไกรสร 091-7838676 , 086-3516797
icon-open-in-new

ขายด่วน รถโดยสาร 2 แถว ฟรีดาวน์ ไกรสร 091-7838676 , 086-3516797

฿ 68,000
HINO
FC
ปี 2567
รถบรรทุก 6 ล้อ ISUZU รุ่น NPR 150 ปี 2015
icon-open-in-new

รถบรรทุก 6 ล้อ ISUZU รุ่น NPR 150 ปี 2015

฿ 550,000
ISUZU
NPR
ปี 2558
icon-marker-outline
กรุงเทพ
รถโดยสารHINO 117แรงม้า ยาว5.50เมตร เครื่องเยี่ยม แชสซีสวยๆ เอกสารครบพร้อมโอนทั่วไทย
icon-open-in-new

รถโดยสารHINO 117แรงม้า ยาว5.50เมตร เครื่องเยี่ยม แชสซีสวยๆ เอกสารครบพร้อมโอนทั่วไทย

฿ 388,000
HINO
ปี 2540
Hino FC9Jปี62
icon-open-in-new

Hino FC9Jปี62

฿ 850,000
HINO
ปี 2562
พิเศษสุดสุดไปเลย โปร ใช้เงินออกรถ 50,000บาทแถมอีกต่อ ในยอดผ่อนไม่ต้องจ่ายvat เพิ่ม หกล้อโดยสาร 20 ที
icon-open-in-new

พิเศษสุดสุดไปเลย โปร ใช้เงินออกรถ 50,000บาทแถมอีกต่อ ในยอดผ่อนไม่ต้องจ่ายvat เพิ่ม หกล้อโดยสาร 20 ที

฿ 50,000
HINO
FL
ปี 2560
ใช้เงินออกรถ 50,000 ฿ ยอดผ่อนไม่เสีย vat เพิ่ม ⏩️ หกล้อโดยสาร ⏪️ Hino INNOVATOR 150 แรง  ปี 2560
icon-open-in-new

ใช้เงินออกรถ 50,000 ฿ ยอดผ่อนไม่เสีย vat เพิ่ม ⏩️ หกล้อโดยสาร ⏪️ Hino INNOVATOR 150 แรง ปี 2560

฿ 50,000
HINO
XZU
ปี 2560
รถโดยสาร Hino XZU 150 แรงม้า ปี 2560
icon-open-in-new

รถโดยสาร Hino XZU 150 แรงม้า ปี 2560

฿ 720,000
HINO
XZU
ปี 2560
หกล้อโดยสาร Hino XZU 150 แรงม้า ปี 2561
icon-open-in-new

หกล้อโดยสาร Hino XZU 150 แรงม้า ปี 2561

฿ 720,000
HINO
XZU
ปี 2561
หกล้อโดยสาร Hino XZU 150 แรงม้า ปี 2561
icon-open-in-new

หกล้อโดยสาร Hino XZU 150 แรงม้า ปี 2561

฿ 740,000
HINO
XZU
ปี 2561
หกล้อโดยสาร ตามสาพ 720,000 เช็คช่วงล่างถ่ายของเหลวแบตใหม่ยางใหม่ 850,000
icon-open-in-new

หกล้อโดยสาร ตามสาพ 720,000 เช็คช่วงล่างถ่ายของเหลวแบตใหม่ยางใหม่ 850,000

฿ 850,000
HINO
ปี 2560
รถโดยสาร Hino XZU 150 แรงม้า ปี 2560
icon-open-in-new

รถโดยสาร Hino XZU 150 แรงม้า ปี 2560

฿ 720,000
HINO
XZU
ปี 2560
หกล้อโดยสาร Hino 150แรงม้า ปี61
icon-open-in-new

หกล้อโดยสาร Hino 150แรงม้า ปี61

฿ 740,000
HINO
ปี 2561
icon-marker-outline
ชลบุรี
หกล้อโดยสาร Hino 150แรง ปี2560
icon-open-in-new

หกล้อโดยสาร Hino 150แรง ปี2560

฿ 720,000
HINO
ปี 2560
icon-marker-outline
ชลบุรี
หกล้อโดยสาร Hino Wu 121 แรงม้า ปี 2549
icon-open-in-new

หกล้อโดยสาร Hino Wu 121 แรงม้า ปี 2549

฿ 300,000
HINO
FM
ปี 2549
หกล้อโดยสาร HINO WU 121 แรงม้า ปี 2549
icon-open-in-new

หกล้อโดยสาร HINO WU 121 แรงม้า ปี 2549

฿ 350,000
HINO
WU
ปี 2549
หกล้อโดยสาร Isuzu NQR 175 แรงม้า ปี 2558
icon-open-in-new

หกล้อโดยสาร Isuzu NQR 175 แรงม้า ปี 2558

฿ 790,000
ISUZU
NQR
ปี 2558
หกล้อโดยสาร Isuzu Nqr 175 แรงม้า ปี 2558
icon-open-in-new

หกล้อโดยสาร Isuzu Nqr 175 แรงม้า ปี 2558

฿ 890,000
ISUZU
NQR
ปี 2558
หกล้อโดยสาร Isuzu Nqr 175 แรงม้า ปี 2558
icon-open-in-new

หกล้อโดยสาร Isuzu Nqr 175 แรงม้า ปี 2558

฿ 890,000
ISUZU
NQR
ปี 2558
รถสองแถว 6 ล้อ
icon-open-in-new

รถสองแถว 6 ล้อ

฿ 200,000
MITSUBISHI FUSO
FE
ปี 2528
icon-marker-outline
นครราชสีมา
หกล้อโดยสาร ISUZU NPR 150 แรงม้า ปี 57
icon-open-in-new

หกล้อโดยสาร ISUZU NPR 150 แรงม้า ปี 57

฿ 690,000
ISUZU
ปี 2557
หกล้อโดยสาร ISUZU NPR 150 แรงม้า ปี 57
icon-open-in-new

หกล้อโดยสาร ISUZU NPR 150 แรงม้า ปี 57

฿ 690,000
ISUZU
ปี 2557
icon-marker-outline
ชลบุรี
หกล้อโดยสาร ISUZU NPR 150 แรงม้า ปี 57
icon-open-in-new

หกล้อโดยสาร ISUZU NPR 150 แรงม้า ปี 57

฿ 690,000
ISUZU
ปี 2557
หกล้อโดยสาร ISUZU NPR 150 แรงม้า ปี 57
icon-open-in-new

หกล้อโดยสาร ISUZU NPR 150 แรงม้า ปี 57

฿ 690,000
ISUZU
ปี 2557
หกล้อโดยสาร ISUZU NPR 150 แรงม้า ปี 57
icon-open-in-new

หกล้อโดยสาร ISUZU NPR 150 แรงม้า ปี 57

฿ 690,000
ISUZU
ปี 2557
icon-marker-outline
ชลบุรี
หกล้อรถโดยสาร HINO 121 แรง ปี 2549 จำนวนที่นั่ง 22 คน ราคา 470,000 บาท
icon-open-in-new

หกล้อรถโดยสาร HINO 121 แรง ปี 2549 จำนวนที่นั่ง 22 คน ราคา 470,000 บาท

฿ 470,000
HINO
ปี 2549
หกล้อโดยสาร HINO
icon-open-in-new

หกล้อโดยสาร HINO

฿ 470,000
HINO
ปี 2549
หกล้อโดยสาร HINO INNOVATOR
icon-open-in-new

หกล้อโดยสาร HINO INNOVATOR

฿ 700,000
HINO
ปี 2562
หกล้อโดยสาร ISUZU NKR ปี2548
icon-open-in-new

หกล้อโดยสาร ISUZU NKR ปี2548

฿ 320,000
ISUZU
NKR
ปี 2548
หกล้อโดยสาร HINO ปี 2549
icon-open-in-new

หกล้อโดยสาร HINO ปี 2549

฿ 430,000
HINO
ปี 2549
ISUZU NKR
icon-open-in-new

ISUZU NKR

฿ 320,000
ISUZU
ปี 2548
หกล้อโดยสาร ISUZU NPR 150 แรงม้า ปี 57
icon-open-in-new

หกล้อโดยสาร ISUZU NPR 150 แรงม้า ปี 57

฿ 690,000
ISUZU
ปี 2557

5 เคล็ดลับเลือก รถบรรทุกมือสอง 6ล้อ เช็คอะไรบ้าง

5 เคล็ดลับเลือก รถบรรทุกมือสอง 6ล้อ เช็คอะไรบ้าง ก่อนตัดสินใจซื้อคำถามยอดฮิตสำหรับคนที่จะกระโดดเข้ามาร่วมวงการ รถบรรทุก มือสอง ซึ่งแตกต่างจากรถบ้านค่อนข้างมาก เพราะ รถบรรทุกคือรถใช้งาน และ ใช้เพื่อทำมาหากิน ถ้าเจอของดีต้นทุนในการดูแลก็ต่ำ

ยิ่งในสถานการณ์ที่เศรษฐกิจย่ำแย่ การซื้อรถใหม่เลยอาจจะเป็นปัญหาในด้านการเงินสำหรับหลายๆคน รวมไปถึงตอนนี้รถใหม่ขาดตลาดอันเนื่องมาจากปัญหาการผลิตชิป หรือ ที่เรียกว่า semiconductor ทำให้มีหลายคนหันมาหา รถบรรทุกมือสอง 6ล้อ มากขึ้น

ในอีกมุมหนึ่งหลายๆคนไม่สามารถดำเนินธุรกิจต่อได้ จึงต้องปลดภาระออกไปทำให้ต้องขายรถบรรทุกที่เคยใช้ทำมาหากินออกไปเพื่อนำเงินมาหมุนเวียนด้านอื่นๆแทน

แต่ทั้งผู้ซื้อผู้ขาย ควรจะรู้สิ่งที่ควรเช็คก่อนจะซื้อขายรถบรรทุกมือสอง ว่าการซื้อรถบรรทุกที่เป็น รถมือสอง นั้น ต้องเช็คอะไร ไปดู 5 Check กันเลยครับ

ซื้อรถบรรทุกมือสองเช็คอะไรบ้าง

1. เช็คประวัติผู้ซื้อ

การซื้อรถบรรทุกมือสองออนไลน์ เราอาจจะยังไม่เคยเห็นหน้าคนขายมาก่อน ผู้ขายอาจจะมีหลากหลายประเภท ก่อนอื่นมาทำความเข้าใจประเภทผู้ขายกันก่อน

  • เต๊นท์รถ ส่วนใหญ่เป็นผู้ขายที่มีตัวตน มีหลากหลายขนาด อยู่ในหลายพื้นที่ กลุ่มพวกเต๊นท์รถเป็นกลุ่มที่ค่อนข้างมีความน่าไว้วางใจสูง แต่อย่างไรก็ตามก่อนซื้อเราต้องเช็คให้ชัดเจนว่า เต๊นท์มีตัวตน เต๊นท์นี้ยังดำเนินกิจการอยู่

    เทคนิค : ใช้ Google Map หรือ Social Media แล้ว search หาชื่อเต๊นท์
เต๊นท์รถมือสอง
  • นายหน้า นายหน้าคือคนที่มีหน้าที่ในการช่วยหาลูกค้า ช่วยทำการตลาด ช่วยต่อรอง ซึ่งนายหน้ามีทั้งกลุ่มที่เป็นนายหน้าในนามบริษัท และ นายหน้าอิสระ ซึ่งผู้ซื้ออาจจะต้องซักถามประวัติของนายหน้าสักนิดก่อน เช่น ข้อมูลเบื้องต้น และ เป็นนายหน้าประเภทไหน นอกจากนี้เนื่องจากการเป็นนายหน้า จึงไม่ใช่เจ้าของรถจริงๆ เราจึงต้องถามรายละเอียดของเจ้าของรถด้วยเช่นเดียวกัน
  • เจ้าของขายเอง กลุ่มสุดท้ายเป็นเจ้าของรถ ญาติ หรือ บริษัท ที่อยากจะขายรถเก่าออกไป ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดๆ แต่ตั้งขายด้วยตัวเอง ในมุมของราคามักจะมีราคาที่ถูกกว่าเต๊นท์หรือนายหน้า เพราะจะไม่มีการบวกกำไรเพิ่มเติม แต่อย่างไรก็ตามกลุ่มเจ้าของขายเองไม่ได้เชี่ยวชาญในการตั้งราคา บางครั้งอาจจะตั้งราคาที่สูงเกินไปได้เช่นกัน

    อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ควรตรวจสอบคือ เจ้าของคนนี้ น่าไว้ใจแค่ไหน อย่างใน Truck2Hand จะมีสัญลักษณ์การยืนยันตัวตนอยู่ ซึ่งหมายถึง
  • การยืนยันบัตรประชาชนแล้ว ✔
  • การยืนยันบัญชีธนาคารแล้ว ✔
  • การยืนยันหมายเลขโทรศัพท์แล้ว ✔
ระดับสมาชิก Truck2hand

2. เช็คประวัติ รถบรรทุกมือสอง 6 ล้อ

การเช็คประวัติรถสามารถทำได้ โดยการดูเล่มทะเบียนรถ ซึ่งเราจะทราบวันที่จดทะเบียนครั้งแรกของรถ และ วันที่จดทะเบียนล่าสุด ทำให้เรารู้อายุรถ ส่วนประวัติการเข้าศูนย์บริการเราจะดูได้จากสมุดบันทึกการเข้าบริการ ส่วนประวัติอื่นๆ เช่น ประวัติการเปลี่ยนแปลงชิ้นส่วน การดัดแปลง และ ประวัติการเกิดอุบัติเหตุ ต้องเกิดจากการสอบถามกับเจ้าของรถ

อีกสิ่งหนึ่งที่ควรดูคือ เลขกิโล เพื่อดูว่ารถใช้มาแล้วนานหรือยัง เหมาะสมกับราคาที่ผู้ขายตั้งไว้หรือไม่ สพหรับรถบรรทุกใช้งานการเห็นเลขกิโลเป็นหลักแสนนี่ถือว่าปกตินะครับ อาจจะไปเทียบกับของรถบ้านทั่วไปไม่ได้ เพราะรถบรรทุกวิ่งกันไม่กี่เดือนก็แสนกิโลละครับ

ซื้อรถบรรทุกมือสองเช็คอะไรบ้าง

3. เช็คสภาพรถภายนอก สภาพภายใน

  • สภาพตัวถังรอบรถ และ สี เริ่มจากกการเช็คภายนอกก่อน โดยปกติก็จะดูสภาพสีโดยรวมของรถ ดูรอบสนิมที่ตัวถัง ถ้าจะดูลึกลงไปอีกคือความหนาของสี ซึ่งจะทำให้เราพอจะรู้ได้ว่ารถเคยเกิดอุบัติเหตุมาหรือไม่ ถ้าเห็นรอยโป๊วหนาๆ ก็พอจะเดาได้ว่าเคยเกิดอุบัติเหตุหนักมาก่อน หรือซ่อมสีมาแล้วหลายครั้ง ส่วนรอยสนิมถ้าผู้ซื้อไม่พอใจอยากให้ผู้ขายช่วยแก้ไขนี่ต้องคุยกันก่อนจะตัดสินใจซื้อนะครับ
  • สภาพแชสซี สภาพแชสซี ถ้าดูจากภายนอกคือดูว่ามีการซ่อมแซมแชสซีมาก่อนหรือเปล่า ส่วนวิธีการดูนั้นอาจจะต้องเทียบกับรถรุ่นเดียวกันที่เราเคยใช้ ซึ่งรอยต่อแชสซีต้องเหมือนกันๆ ครับ ส่วนร่องรอยการดัดซ่อมแซมแชสซีเห็นได้จากสภาพของเหล็กแชสซีเช่นเดียวกัน
  • สภาพยาง สภาพยางเช็คได้หลายๆจุด อย่างจุดแรกดูได้จากปีที่ผลิตของยางก่อนเลยว่ามีอายุกี่ปีแล้ว ถ้า 3-5ปีก็ควรพิจารณาเปลี่ยนยาง รวมไปถึงสภาพดอกยางถ้าดอกยางตื้นแล้วก็ควรต้องเปลี่ยน ซึ่งการเปลี่ยนจะคุยกับผู้ขายเพื่อเปลี่ยนก่อนหรือตัดสินใจขายตามสภาพ แล้วผู้ซื้อไปเปลี่ยนเองทีหลัง
ยางรถบรรทุก
  • ยางอะไหล่ และ เครื่องมือ ตรวจดูว่ายางอะไหล่ยังมีอยู่หรือไม่ รวมไปถึงเครื่องมืออุปกรณ์ติดรถว่ายังมีอยู่ครบ
    
  • ระบบไฟ ถ้ามีโอกาสได้ขึ้นไปทดลองใช้ ให้ลองสตาร์ทและเช็คระบบไฟฟ้า ไฟเลี้ยว ไฟหน้า ไฟสูง ไฟตัดหมอก ไฟถอย รวมไปถึงไฟในเก๋งด้วย
ยางอะไหล่

สุดท้ายถ้าเจออะไรที่สภาพไม่ได้โอเคตามที่หวังไว้ ก็อย่าเพิ่งถอดใจไป แต่ต้องเปรียบเทียบกับราคาด้วยซึ่งเจ้าของรถอาจจะทราบอยู่แล้วว่ามีปัญหาอะไรบ้าง ซึ่งอาจจะตั้งราคาลดต่ำลงไปแล้วก็ได้

4. เช็คสภาพเครื่องยนต์ เกียร์ ต้องทดลองขับ

นอกจากฟังเสียงตอนเครื่องยนต์เดิน ดูสภาพภายนอกเครื่องและเกียร์แล้ว การทดลองขับคือวิธีที่ดีที่สุดที่จะรู้ว่ารถที่เราซื้อสภาพยังดีอยู่ ตั้งแต่สตาร์ทเครื่องยนต์ฟังเสียงการเดินเครื่องยนต์ว่ามีเสียงสะดุดหรือไม่ เมื่อออกรถแล้วลองเข้าเกียร์ต่างๆ ต้องเข้าง่ายและลื่นไหลตามปกติ

ในส่วนการเช็คคลัทช์ เมื่อเหยียบคลัทช์ลงไปแล้วต้องรู้สึกว่าไม่ลึกจนเกินไป ถ้ารู้สึกว่าต้องเหยียบลึกอาจจะหมายถึงคลัทช์ใกล้หมดแล้ว ยื่งถ้าคลัทช์ใกล้หมดแต่เลขไมล์ดูน้อยผิดปกติ ให้ตั้งข้อสังเกตเลยครับว่าน่าจะมีการกลับเลขกิโล

เสียงพัดลม และ ระบบแอร์ก็เป็นอีกส่วนที่ควรต้องเช็คเพราะถ้าพังขึ้นมาค่าซ่อมของแท้นี่ไม่น่าคบหากันเลยครับ ถ้าคอมเพรสเซอร์แอร์มีเสียงดังมากเวลาแอร์ทำงาน แปลว่าคอมแอร์น่าจะมีปัญหาละครับ

สุดท้ายปล่อยรถสตาร์ทไว้เหมือนเดิมแล้วดูสีควันจากท่อไอเสีย หากมีควันขาวจำนวนมากแปลว่าเครื่องอาจจะหลวมแต่ถ้าควันดำมากแปลว่าเครื่องมีปัญหาเรื่องการเผาไหม้

แต่สำหรับรถที่ขายโดยตัวแทนที่มีช่างมืออาชีพอยู่ จะเช็คลงไปลึกกว่านั้นอีก โดยจะเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์ สักรอบนึงเพื่อให้เห็นสภาพของของเหลวที่อยู่ในตัวรถตอนนั้น ถ้ามีเศษโลหะปนออกมากับน้ำมันแล้ว นั่นคือสัญญาณของเครื่องทีสภาพเริ่มจะไม่ดีแล้วหล่ะครับ รวมไปถึงดูสภาพสีของน้ำมัน อย่าง Truck2Hand เองก็จะทำด้วยวิธีแบบนี้เช่นกัน เพื่อการันตีว่ารถอยู่ในสภาพดีพร้อมขายจริงๆ

รถบรรทุกมือสอง

5. เช็คประกันศูนย์

ถึงจะเป็นเคสที่หายาก แต่ก็คุ้มค่าที่จะถามดูเช่นกัน ก่อนซื้อควรเช็คประกันศูนย์ ประกันโรงงานด้วยว่ายังอยู่ในเงื่อนไขหรือไม่ ตอนนี้สองค่ายใหญ่ในไทยอย่าง ISUZU และ HINO ต่างก็ให้ประกันจากศูนย์อยู่ที่ 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง ซึ่งเมื่อเราเช็คอายุรถแล้วว่าไม่เกิน 5 ปี ก็มีโอกาสที่รถยังคงมีประกันศูนย์ติดอยู่

โดยรถที่ขายในสภาพเดิมๆไม่มีการดัดแปลง จะมีโอกาสสูงมากที่ยังคงมีประกันอยู่เพราะไม่ผิดกับเงื่อนไขการรับประกัน

อย่างไรก็ตามลองเช็คกับผู้ขายให้แน่ใจก่อนว่ามีประกันศูนย์อยู่หรือไม่ โดยโทรเช็คกับศูนย์บริการก่อน หรือ ดูจากสมุดรับประกันตัวรถและลองดูว่าหมดอายุวันไหน รวมไปถึงเงื่อนไขต่างๆด้วยเช่นกัน

ถ้าคุณเจอรถบรรทุกมือสอง ที่ยังมีประกันศูนย์ บอกเลยว่าคุณเจอของดีเข้าให้แล้วหล่ะ เพราะโอกาสมันน้อยมากจริงๆที่คุณจะได้ของสภาพดีมีประกันจากศูนย์

รถบรรทุกมือสอง

ประกันรถบรรทุกมือสอง จากผู้ขาย

ประกันรถบรรทุกมือสอง จากผู้ขาย มีเพียงผู้ขายมืออาชีพเท่านั้นที่จะมอบประกันรถบรรทุกมือสองให้กับผู้ซื้อ ซึ่งรถพวกนี้จะเป็นรถที่หมดประกันจากศูนย์แล้ว แต่ผู้ขายตรวจสอบรถบรรทุกและไว้วางใจที่จะให้ประกันเพิ่มเติมเองโดยผู้ขาย

อย่าง Truck2Hand ก็มีรถที่ขายพร้อมให้ ประกันโดย Truck2Hand เองด้วยเช่นกัน รถกลุ่มนี้จะผ่านการซ่อมบำรุงมาอย่างดีตลอดระยะเวลาการใช้งาน เช็คประวัติการเข้าศูนย์บริการได้ และก่อนจะนำออกขายเป็นรถบรรทุกมือสองก็จะตรวจสอบของเหลวทั้งหมด เพื่อยืนยันว่า เครื่อง เกียร์ ไม่มีปัญหาใด ใช้งานต่อได้อย่างสบายใจ นอกจากได้ตรวจสอบของเหลวว่าไม่มีสิ่งเจือปนแล้ว ยังได้ของเหลวชุดใหม่ติดรถไปด้วยเลย ฉะนั้นสภาพพร้อมใช้ของแท้แน่นอน

ลองกดดูรายละเอียดที่รูปได้เลยครับ

รถ Isuzu มือสองสภาพดี

เตรียมพบกับรถบรรทุกมือสอง และ รถมือสอง ยี่ห้อต่างๆ ที่รับประกันโดย ตลาดรถ Truck2Hand ผู้นำตลาด รถบรรทุก มือสอง ได้เร็วๆนี้

==================

เพื่อไม่ให้พลาดข่าวสารดีๆจากเราอย่าลืมแวะเข้ามาดู Blog ของเราบ่อยๆกันนะครับ
https://www.truck2hand.com/blogs/

และขอฝากช่องทางใหม่ของเรา Youtube Truck2Hand Official กด Subscribe รอไว้ได้เลย เดี๋ยวเราจัดเรื่องราวดีๆ ตามไปให้ในนั้นครับ อดใจรอสักครู่ครับ

ส่วนเรื่องราวครั้งต่อไปจะมีอะไรอีกบ้างนั้นรอชมกันได้เลยครับ
ขอบคุณครับ