1. /
    หมวดหมู่สินค้าทั้งหมด
  2. /
    รถบรรทุก
  3. /
    หัวลาก 10ล้อ
  4. /
    HINO (ฮีโน่)
  5. /
    FM
  6. /
    นครพนม

เลขไมล์ การใช้งาน

-

รถบรรทุก หัวลาก 10ล้อ HINO (ฮีโน่) FM นครพนม มือสอง

3 รายการ

3 รายการ

ช่วงราคา
-
ปีจดทะเบียน
-
เรียงตาม

ล้างตัวกรอง

HINO / ฮีโน่
FM
นครพนม
สิบล้อหัวลาก 2 เพลา 699,000 บาท HINO
icon-open-in-new

สิบล้อหัวลาก 2 เพลา 699,000 บาท HINO

฿ 699,000
HINO
FM
ปี 2548
icon-marker-outline
นครพนม
icon-silver-ribbon
รถพ่วง20 ล้อ ไม่ดั้ม 799,999 บาท HINO
icon-open-in-new

รถพ่วง20 ล้อ ไม่ดั้ม 799,999 บาท HINO

฿ 799,999
HINO
FM
ปี 2541
ขาย 699,999 บาท รถ 10 ล้อหัวลาก 2 เพลา HINO MEGA 260 แรง ปี 46
icon-open-in-new

ขาย 699,999 บาท รถ 10 ล้อหัวลาก 2 เพลา HINO MEGA 260 แรง ปี 46

฿ 699,999
HINO
FM
ปี 2546
ขายรถหัวลากฮีโน่ 330
icon-open-in-new
sold

ขายรถหัวลากฮีโน่ 330

฿ 220,000
HINO
FM
ปี 2533
ขาย 485,000 บาท Hino
icon-open-in-new
sold

ขาย 485,000 บาท Hino

฿ 485,000
HINO
FM
ปี 2537
ขาย 725,000 รถ 10 หัวลาก 2 เพลา Hino
icon-open-in-new
sold

ขาย 725,000 รถ 10 หัวลาก 2 เพลา Hino

฿ 725,000
HINO
FM
ปี 2560
ขาย 465,000 บาท Hino Profia 260 แรง 2 เพลา
icon-open-in-new
sold

ขาย 465,000 บาท Hino Profia 260 แรง 2 เพลา

฿ 465,000
HINO
FM
ปี 2564
ขาย 465,000 บาท Hino
icon-open-in-new
sold

ขาย 465,000 บาท Hino

฿ 465,000
HINO
FM
ปี 2539
ขาย 485,000 บาท Hino Profia
icon-open-in-new
sold

ขาย 485,000 บาท Hino Profia

฿ 485,000
HINO
FM
ปี 2537

รถบรรทุก ยี่ห้อ HINO

รุ่นรถ – Chairatchakarn Hino

ประวัติความเป็นมาของ Hino

Hino หรือ “ฮีโน่” เป็นค่ายรถที่มีรากฐานมาจากบริษัทก๊าซอุตสาหกรรมที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2453 ซึ่งต่อมาได้ขยายสายการผลิตไปสู่ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์และเปลี่ยนชื่อเป็น Tokyo Gas and Electric Industry  และได้ผลิตยานยนต์คันแรกในปี 2460 คือ รถบรรทุก Model TGE “A-Type”  จนในปี 2480 ได้รวมแผนกรถยนต์เข้ากับพันธมิตรอย่าง Automobile Industry และ Kyodo Kokusan KK เพื่อจัดตั้ง Tokyo Automobile Industry และอีก 4 ปีต่อมา ได้เปลี่ยนชื่อเป็น Diesel Motor Industry

จนกระทั่งในปี 2485 ก็มีการจัดตั้งบริษัทใหม่เป็น Diesel Motor Industry โดยเหตุการณ์นี้ได้ทำให้โรงงาน แยกตัวออกจาก Diesel Motor Industry และได้ถือกำเนิดค่ายรถที่ชื่อ ‘ฮีโน่’ ขึ้นอย่างเป็นทางการ ซึ่งในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง Hino ได้มีส่วนสำคัญในการพัฒนารถบรรทุกพ่วงสำหรับงานหนักและใช้เพื่อปฏิบัติภาระกิจสำคัญทางการทหาร

ต่อมาภายหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุดลงบริษัท ต้องยุติการผลิตเครื่องยนต์ดีเซลขนาดใหญ่สำหรับการใช้งานทางการทหารและด้วยการลงนามในสนธิสัญญา จึงได้เปลี่ยนชื่อจาก Hino Heavy Industries เป็น Hino Industries โดยมุ่งเน้นไปการพัฒนาไปที่รถบรรทุกเทรลเลอร์สำหรับงานหนักอย่างเป็นทางการ และจับตลาดรถประจำทางที่ใช้ในการขนส่งมวลชนด้วย

ฮีโน่ รุกตลาดต่างประเทศแห่งแรกที่เมืองไทย

หลังจากที่ในปี 2495 ฮีโน่ได้เปิดตัวรถโดยสารฮีโน่คันแรกในประเทศไทย และอีก 10 ปีต่อจากนั้นก็ได้แต่งตั้งตัวแทนจำหน่ายต่างประเทศแห่งแรกที่เมืองไทยซึ่งในขณะนั้นคือ “รัตนยนต์ชัย” ถือเป็นประเทศแรกที่มีการแต่งตั้งตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ และในปัจจุบันคือ “บริษัท ฮีโน่ มอเตอร์สเซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด”  ซึ่งมีอาคารสำนักงานใหญ่ที่ถนนวิภาวดีรังสิต  พร้อมทั้งมีตัวแทนจำหน่ายและศูนย์บริการมาตรฐาน ครอบคลุมทุกภูมิภาคทั่วประเทศ

Hino มีรถบรรทุกรุ่นอะไรบ้าง

รถบรรทุก 4 ล้อ Hino

รถบรรทุก 6 ล้อ Hino

  • รถบรรทุก 6ล้อ Hino ขนาดเล็ก
    • Hino XZU 150 แรงม้า
  • รถบรรทุก 6ล้อ Hino ขนาดกลาง
    • Hino FC 155 แรงม้า
    • Hino FC 175 แรงม้า
    • Hino FC 210 แรงม้า
  • รถบรรทุก 6ล้อ Hino ขนาดใหญ่

รถบรรทุก 10 ล้อ เพลาเดียว Hino

  • Hino FL 260 แรงม้า
  • Hino FL 344 แรงม้า

รถบรรทุก 10 ล้อ สองเพลา Hino

  • Hino FM 260 แรงม้า
  • Hino FM 344 แรงม้า
  • Hino FM 380 แรงม้า

รถบรรทุก 12 ล้อ Hino

  • Hino GV 344 แรงม้า
  • Hino GY 380 แรงม้า

รถหัวลาก Hino

  • Hino FG 260 แรงม้า
  • Hino FM 344 แรงม้า
  • Hino FM 380 แรงม้า
  • Hino SY 380 แรงม้า

รถผสมปูน Hino

  • Hino FM 344 แรงม้า

รถบรรทุกยกเพลา

  • Hino FG 260 แรงม้า
  • Hino GL 240 แรงม้า

รถบัส Hino

  • Hino LIESSE II 136 แรงม้า
  • Hino RK 251 แรงม้า
  • Hino RM 380 แรงม้า

ซื้อ-ขาย รถบรรทุกมือสอง แบบสะดวกรวดเร็ว

สำหรับใครที่อยากซื้อ รถบรรทุกมือสอง Hino ทุกประเภท ราคาเหมาะสม สามารถเข้าไปชมเพิ่มเติมได้ที่ Truck2hand ผู้นำด้านตลาดออนไลน์ซื้อ-ขาย รถบรรทุกมือสอง โดยมีการจัดหมวดหมู่เพื่อให้คุณสามารถเลือกซื้อได้แบบสะดวก

แหล่งข้อมูลจาก: https://www.busandtruckmedia.com/