มนุษย์ไม่ได้เกิดมาเพื่ออยู่ในพื้นที่แคบ ๆ แค่เพียงไม่กี่จุดในชีวิต การล๊อคดาวน์ในเวลาที่ผ่านมาเป็นสิ่งชี้วัดได้อย่างชัดเจนว่าจริงๆ แล้วถึงแม้ว่าเราจะไม่ต้องใช้พื้นที่มากมายใด ๆ แต่ชีวิตก็ยังโหยหาที่จะมีพื้นที่เพิ่มเติมที่จะใช้ชีวิตได้อย่างอิสระ นั่นเป็นจุดที่คลุมเครือเกินจะอธิบายได้ในธรรมชาติของเรา
เริ่มจะคลายล็อกดาวน์กันบ้างแล้ว จากที่ติดตามในข่าวแค่คลายเบา ๆ ที่เที่ยวยอดฮิตอย่างอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ก็แทบแตกกันเลยทีเดียว !
ชาว Truck2Hand ล่ะ เตรียมตัวไปเที่ยวทั่วไทยกันหรือยัง ช่วงของการย่างกรายเข้าสู่ปลายฝนต้นหนาวแบบนี้ หรือที่เรียกว่าช่วง ไฮซีซั่น เป็นช่วงเวลาที่นักท่องเที่ยวนิยมออกไปเที่ยวกันเป็นจำนวนมาก นั่นเพราะเป็นฤดูกาลที่เหมาะสม เนื่องจากเป็นช่วงนี้มีสภาพอากาศที่ดี ไม่ว่าจะเป็นภาคเหนือของไทยที่มีดอกไม้บานสะพรั่ง อากาศหนาวเย็นกำลังดี หรือทางภาคใต้ท้องทะเลช่วงนี้จะสวยงามเป็นพิเศษ
เนื่องจากฝนหยุดตก ท้องฟ้าสว่างสดใส พวกเราคาดการณ์ว่า หลังคลายล็อกดาวน์จากมาตราการภาครัฐ สถานที่ท่องเที่ยวโดยเฉพาะ ที่พัก ต่าง ๆ อาจจะมีปริมาณนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก บางแห่งต้องจองกันเป็นเดือน ๆ วันนี้เราจึงขอแนะนำ ท่านที่ใช้รถกระบะ และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ที่ชื่นชอบสายแคมป์ปิ้ง ไม่ควรพลาดที่จะมีเต็นท์ท้ายรถกระบะไว้สำหรับ ให้ครอบครัวได้ใช้พักผ่อนระหว่างเดินทาง ซึ่งจะได้อารมณ์ประมาณว่ารู้สึกปลอดภัย น่าไว้วางใจในการหลับนอนในเต็นท์แบบปูนอนบนพื้นดิน เราจึงขอแนะนำการเลือกซื้อเต็นท์ท้ายรถกระบะ ที่นอกเหนือจากการเลือกซื้อเต็นท์ทั่ว ๆ ไปเพื่อให้เหมาะสมกับรถและทริปสำคัญของคุณ
เลือกขนาดเต็นท์ให้เหมาะสมกับตัวรถกระบะ
รถกระบะ ทั่วไปจะมีขนาดกระบะท้ายหลัก ๆ สามรูปแบบ คือ กระบะตอนเดียว กระบะตอนครึ่ง(รถแคป) กับ รถกระบะ 4 ประตู
ขนาดจึงแตกต่างกัน เช่น ถ้าเป็น รถกระบะ 4 ประตู ควรใช้เต็นท์ ขนาด กว้าง 165 cm และ ยาว 169 cm เป็นต้น ดังนั้นการเลือกซื้อเต็นท์ท้ายกระบะ ควรรู้ขนาดที่แน่นอนหรือได้ทำการวัดขนาดกว้าง คูณ ยาว ของท้ายกระบะให้ดีก่อนตัดสินใจซื้อ เพราะหากได้ขนาดที่ตรงกับตัวรถพอดี ก็จะสามารถกางได้เข้ากับรถอย่างลงตัว มีความมั่นคง ไม่มีพื้นที่ว่าง หรือพื้นที่เกินออกมา ได้พื้นที่ใช้สอยครบทุกตารางนิ้วสำหรับการพักผ่อนบนรถของคุณเอง
คุณสมบัติของเต็นท์ท้าย รถกระบะ
ผ้าเต็นท์ส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานของเต็นท์มากที่สุดจะเป็นส่วนทึบด้านนอกที่เป็นผ้าคลุมซึ่งเป็นส่วนที่จะป้องกันเราจากแดด ลมและฝน คุณสมบัติหลักที่ผ้าส่วนทึบนี้ต้องมี คือ กันน้ำได้ดี เบา มีความยืดหยุ่น ทนการดึงการฉีกขาดได้ ไม่เสื่อมสภาพจากแสงแดด น้ำและอุณหภูมิรวดเร็วเกินไปนัก
วัสดุที่เข้าเกณฑ์หาได้ง่ายและราคาไม่แพง ก็จะมี 2 ชนิด คือ 1. ไนลอน และ 2. โพลีเอสเตอร์ ทั้งสองชนิดแม้จะทำงานได้ดีทั้งคู่ แต่ถ้าจะเอามาเปรียบกันตัวต่อตัวแล้วจะพบว่าโพลีเอสเตอร์จะทนทานต่อการยืดตัวกว่าไนลอน เช่น เต็นท์ที่เป็นผ้าไนลอนนั้นเมื่อกางตึงแล้ว ใช้งานสักระยะผ้าอาจจะยืดออกเล็กน้อยตัวเต็นท์ดูหย่อนคล้อยลง นอกจากนั้นโพลีเอสเตอร์ยังเสื่อมสภาพจากแดดน้อยกว่า และกันน้ำได้ดีกว่าไนลอน
สเปกของผ้าเต็นท์ จะมีเลขกำกับอยู่ 2 ตัว ตัวนึงจะตามหลังด้วยอักษร D (denier) เช่น 20D ตัว D เป็นหน่วยวัดความหนาหรือน้ำหนักของด้ายต่อหน่วยความยาวที่นำมาทอเป็นผ้า เลขอีกตัวหนึ่งจะตามด้วยอักษร T (thread per inch) เช่น 210T เลขตัว T นั้นใช้นับจำนวนเส้นใยหรือด้ายในหนึ่งพื้นที่ตารางนิ้ว สรุปง่ายๆ คือถ้าตัวเลขกำกับทั้งสองยิ่งมาก ผ้าจะยิ่งทนทาน ไม่ยืดมากเมื่อถูกดึงรั้ง แต่ก็จะตามมาด้วยน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นมาก
ผ้าเต็นท์ที่ดีไม่ว่าจะแบบไหนต้องได้รับการเคลือบกันน้ำ คือเมื่อเคลือบแล้วเวลาโดนน้ำผ้าจะไม่ดูดซับน้ำไว้ และไม่ยอมให้น้ำผ่านได้ถ้าแรงดันน้ำยังไม่เกินค่าที่ออกแบบไว้ กับทำให้น้ำรวมตัวกันเป็นหยด และไหลออกจากผ้าเต็นท์ได้ง่าย โดยทั่วไปสารที่นำมาเคลือบจะเป็นโพลียูรีเทน หรือที่เรียกกันว่า ผ้าที่เคลือบ PU ซึ่งผ้าที่เคลือบแบบนี้ประมาณ 4-5 ปี จะเริ่มเสื่อมสภาพโดยเฉพาะอย่างยิ่งจากปฏิกิริยาเคมีกับน้ำ ซึ่งเป็นธรรมชาติของวัสดุประเภทนี้ เราสามารถเพิ่มอายุการใช้งานของเคลือบ PU โดยการผสมโพลีอีเธอร์ (polyether) เข้าไป เคลือบชนิดนี้ทำให้วัตถุดิบที่นำมาตัดเย็บเต็นท์มีราคาสูงตามไปด้วย
การเคลือบผ้าเต็นท์ที่นิยมอีกแบบ คือ การเคลือบซิลิโคน (silicone elastomer) ปกติจะใช้เคลือบผ้าไนลอน มีความลื่น ใช้ในเต็นท์ประเภทที่ไม่ต้องการให้หิมะมาเกาะเต็นท์ สุดท้ายไม่ว่าจะเคลือบด้วยอะไรก็แล้ว ทางทรัคทูแฮนด์ขอแนะนำให้เลือกเต็นท์ที่ผู้ผลิตรับประกันว่ากันน้ำมากกว่า 2000-3000 มม. ขึ้นไป สำหรับการใช้งานในเมืองไทย บางเวลาดูเหมือนว่าระบำดอกฝนหนักหนาเสียจนต้องมาลุ้นว่าคืนนี้จะได้นอนแช่น้ำกันหรือไม่
สุดท้าย อุปกรณ์เสริมต่าง ๆ ก็สำคัญ เพราะพื้นของกระบะท้ายรถนั้น อย่างที่ทราบกันดีว่ามันไม่ได้ราบเรียบ ที่นอนแบบเป่าลม ที่นอนฟองน้ำ ยางปูพื้น หรือที่รองนอนจากวัสดุอื่น ๆ ควรเตรียมให้พร้อม ทีมงานทรัคทูแฮนด์ขอให้มีความสุขกับทริปที่รอคอย ที่กำลังจะมาถึงในเวลาอันใกล้นี่ด้วยนะครับ
ซื้อ รถกระบะ สายลุยรุ่นไหนดี
สุดท้ายเราขอแนะนำ รถกระบะ รุ่นที่เหมาะกับการลุยตั้งแคมป์กันครับ มีรุ่นไหนกันบ้างไปดูกันเลยครับ
>> กระบะสี่ประตู ราคาไม่เกิน 8 แสน กดดูได้เลย <<
ISUZU D-MAX
รถกระบะอันดับหนึ่งอันดับ 1 ในตลาดประเทศไทยอย่าง อีซูซุ ดีแมกซ์ นั้นมีให้เลือกซื้อได้ทั้งมือ1 และ มือสอง ซึ่งจุดเด่นที่เครื่องยนต์ประหยัดน้ำมันอย่าง เครื่อง 1.9 Blue Power และแน่นอนว่าความทนทานนั้นมาเป็นเบอร์ต้นๆของตลาดเราแน่นอน
ส่วนสายลุยนั้นก็จะมีรุ่นแยกเป็น V-Cross เป็นตัวเลือกสำหรับสายลุย 4WD บุกป่าฝ่าดงกันครับ โดยตัว V-Cross นั้นมีให้เลือกทั้งแบบ รถกระบะสี่ประตู และ รถกระบะตอนครึ่ง อีกด้วย ส่วนถ้างบน้อยลงมาก็มีตัว ขับเคลื่อนสองล้อยกสูง อย่าง Hi-Lander ที่สามารถลุยได้เช่นเดียวกัน
ดู กระบะ ISUZUมือสอง ได้ที่นี่
TOYOTA HILUX REVO
สำหรับคู่ชกที่สูสีที่สุดเบียดอันดับกันประจำในตลาดรถกระบะบ้านเราก็ต้อง Toyota Revo เลยครับ ด้วยความยอดนิยมในตลาดตั้งแต่เป็นชื่อ VIGO จนมาถึง Revo ก็ยังคงครองใจสาวกได้อย่างเหนียวแน่นกันมากเลยทีเดียว
สำหรับ รถกระบะโตโยต้า สายลุยก็ต้อง Revo Rocco เลยครับที่แกร่งเหนือนิยามตามคอนเซปต์จริงๆ มาพร้อมเครื่อง GD รุ่นที่2 ขนาด 2.8 ม้า204ตัว แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร ระบบช่วงล่าง Superflex และระบบความปลอดภัยเต็มสูบ
ดู กระบะ Toyota มือสอง ได้ที่นี่
FORD RANGER
สายลุยเค้าไม่คุยกันให้เสียเวลา รถกระบะสายพันธุ์อเมริกาที่เต็มเปี่ยมด้วยพลังมาตั้งแต่ยุคไหนก็ต้อง Ford Ranger เลยครับ แม้ยอดขายจะอยู่ห่างๆจากสองเจ้าแรกแต่ก็เกาะอันดับสามไว้ไม่เคยห่างเลยจริงๆ เรียกว่าครองใจอยู่ใน Top 3 มาตลอด
สำหรับ Ford Ranger ของสายลุยจะลุยกันตั้งแต่รถตัวพื้นฐานเลยก็ยังได้ด้วยความบึกบึนขึ้นชื่ออยู่แล้ว หรือ จะจัดตัว Raptor ราคาล้าน อัพสุดเท่ที่มาพร้อมเทอร์โบคู่ 2.0 ลิตร หรือจะเป็นตัว Wildtrak 2.2 ลิตร ยกสูงช่วงล่างปึ๊กๆ ก็ลุยได้อย่างสบายๆเลย
สำหรับใครยังหารถไม่ได้ และ กำลังหารถมือสอง ที่เจ้าของขายเอง ไม่ผ่านคนกลางเราขอแนะนำ รถมือสอง ที่ติดแท็ก รถบ้าน ที่นี่ได้เลยครับ