1. /
    หมวดหมู่สินค้าทั้งหมด
  2. /
    เครื่องมือและอุปกรณ์ช่าง
  3. /
    ชัยภูมิ

เครื่องมือและอุปกรณ์ช่าง ชัยภูมิ มือสอง

19 รายการ

19 รายการ

ช่วงราคา
-
เรียงตาม

ล้างตัวกรอง

เครื่องตัดไฟเบอร์ 14" Nash มือ 1ฟรี ใบตัด1 ใบ
icon-open-in-new

เครื่องตัดไฟเบอร์ 14" Nash มือ 1ฟรี ใบตัด1 ใบ

฿ 3,490
icon-marker-outline
ชัยภูมิ
ประตูไม้กระจกบน9 ช่อง ขนาด 80*200
icon-open-in-new

ประตูไม้กระจกบน9 ช่อง ขนาด 80*200

฿ 1,890
เลื่อยวงเดือน 7" GIANT #6600 ของใหม่ มือ 1
icon-open-in-new

เลื่อยวงเดือน 7" GIANT #6600 ของใหม่ มือ 1

฿ 1,400
เครนยกขิง
icon-open-in-new

เครนยกขิง

฿ 9,500
icon-marker-outline
ชัยภูมิ
ขายแฮนด์ลิฟต์ไฟฟ้า้า
icon-open-in-new

ขายแฮนด์ลิฟต์ไฟฟ้า้า

฿ 49,000
icon-marker-outline
ชัยภูมิ
ขายถูก ANATA จักรเย็บกระสอบ รุ่น APG-2610 มือสอง
icon-open-in-new

ขายถูก ANATA จักรเย็บกระสอบ รุ่น APG-2610 มือสอง

฿ 1,000
กระเป๋า พร้อมอุปกรณ์ช่าง
icon-open-in-new

กระเป๋า พร้อมอุปกรณ์ช่าง

฿ 4,900
icon-marker-outline
ชัยภูมิ
ตู้ชั้น 6ลิ้นชัก พร้อมเครื่องมือ ช่าง
icon-open-in-new

ตู้ชั้น 6ลิ้นชัก พร้อมเครื่องมือ ช่าง

฿ 15,900
icon-marker-outline
ชัยภูมิ
ปั้มน้ำดับเพลิงเก่าญี่ปุ่น
icon-open-in-new

ปั้มน้ำดับเพลิงเก่าญี่ปุ่น

฿ 35,000
icon-marker-outline
ชัยภูมิ
แฮนด์ลิฟต์ไฟฟ้า
icon-open-in-new

แฮนด์ลิฟต์ไฟฟ้า

฿ 15,900
icon-marker-outline
ชัยภูมิ
เครื่องปั่นไฟLUMAN5kva
icon-open-in-new

เครื่องปั่นไฟLUMAN5kva

฿ 27,000
icon-marker-outline
ชัยภูมิ
เครนยกของ3ตัน
icon-open-in-new

เครนยกของ3ตัน

฿ 15,900
icon-marker-outline
ชัยภูมิ
เครนยกของ3 ตัน
icon-open-in-new

เครนยกของ3 ตัน

฿ 15,900
icon-marker-outline
ชัยภูมิ
ขายชุดซ่อมตัวถังรถ
icon-open-in-new

ขายชุดซ่อมตัวถังรถ

฿ 4,900
icon-marker-outline
ชัยภูมิ
ลิฟต์กระเช้า
icon-open-in-new

ลิฟต์กระเช้า

฿ 9,000
icon-marker-outline
ชัยภูมิ
ถังยิงทราย 200 ลิตร
icon-open-in-new

ถังยิงทราย 200 ลิตร

฿ 36,000
icon-marker-outline
ชัยภูมิ
ขายถังยิงทราย200ลิตร
icon-open-in-new

ขายถังยิงทราย200ลิตร

฿ 36,000
icon-marker-outline
ชัยภูมิ
ขายถังยิงทราย 200 ลิตร
icon-open-in-new

ขายถังยิงทราย 200 ลิตร

฿ 36,000
icon-marker-outline
ชัยภูมิ
ถังยิงทรายขนาด 200 ลิตร ของใหม่ไม่เคยใช้งานของนอกนำเข้าขาย 36,000 บาทพร้อมสาย
icon-open-in-new

ถังยิงทรายขนาด 200 ลิตร ของใหม่ไม่เคยใช้งานของนอกนำเข้าขาย 36,000 บาทพร้อมสาย

฿ 36,000
icon-marker-outline
ชัยภูมิ

เทคนิคการดูแลรถ หลังลุยน้ำท่วม

สวัสดีแฟนๆ Truck2hand ทุกท่าน วันนี้แอดมินมีเรื่องราว เทคนิคการดูแลรถ มาฝากแฟนๆ Truck2hand ผู้รักรถทุกคน เนื่องจากในช่วงนี้มีพายุเข้าหลายลูก ฝนตกหนักทั่วทุกพื้นที่ ทำให้มีหลายๆที่มีน้ำท่วม มีน้ำรอการระบาย อยู่บนถนนหลายสาย

จากบทความก่อน ที่แอดมินเขียนเรื่อง เทคนิคการขับรถลุยน้ำท่วมอย่างปลอดภัย ไปแล้ว เมื่อรถสุดที่รักของเราไปลุยน้ำท่วมแล้ว เราก็จะต้องกลับมาดูแลรักษา ตรวจสอบจุดเสี่ยงต่างๆ กัน วันนี้แอดมิน จึงจะมาพูดถึงเทคนิคการดูแลรถหลังลุยน้ำท่วม ว่า มีจุดไหนต้องตรวจเช็คและบำรุงรักษากันบ้าง เราไปเริ่มกันเลยดีกว่า

เทคนิคการดูแลรถ หลังลุยน้ำท่วม

เทคนิคการดูแลรถ

1.ตรวจเช็กระบบเบรกและคลัชต์

ตามที่เคยเขียนไปแล้วเมื่อบทความก่อน หลังจากลุยน้ำท่วม ให้เหยียบเบรกเป็นระยะๆ เพื่อไล่น้ำและความชื้น เนื่องจากเมื่อผ้าเบรกเปียกน้ำจะทำให้ประสิทธิภาพในการเบรกลดลง รวมไปถึงอาจเกิดสนิมที่ชิ้นส่วนหรือจุดข้อต่อต่างๆได้ และนอกจากจะเหยียบย้ำเบรกแล้ว ระบบคลัชต์ก็เป็นอีกระบบที่ควรจะต้องทำการเหยียบย้ำคลัชต์ด้วยเช่นกัน เพราะ ระหว่างที่ลุยน้ำ น้ำมีโอกาสเข้าไปที่ห้องคลัชต์ ดังนั้น เมื่อพ้นเขตที่น้ำท่วม จึงควรเหยียบย้ำคลัชต์ด้วยเช่นกัน

วิธี คือ ขับรถให้ช้า หรือ หยุดรถในที่ที่ปลอดภัย แล้วทำการเหยียบย้ำที่แป้นเบรก และแป้นคลัชต์ ถี่ๆ เพื่อไล่น้ำและความชื้น

2.เช็กการทำงานไฟหน้า ไฟเลี้ยว ไฟฉุกเฉิน ไฟสัญญาณต่างๆ

หลังจากลุยน้ำท่วมมา ควรจะตรวจเช็คระบบไฟต่างๆ ว่ายังสามารถใช้ได้อยู่หรือไม่ มีน้ำรั่วเข้าไปที่โคมไฟ หรือ ขั้วไฟโดนน้ำแล้วช็อต ทำให้ไฟไม่ติดหรือไม่ เพราะ สัญญาณไฟต่างๆ เป้นส่วนที่สำคัญต่อความปลอดภัย ทั้งให้ความสว่าง การมองเห็นในการขับขี่ยามค่ำคืน เป็นสัญญาณเพื่อสื่อความต้องการของเราให้กับรถคันอื่นๆ เช่น ต้องการเลี้ยวซ้าย ต้องการถอยหลัง

เทคนิคการดูแลรถ

3.เช็กภายในห้องโดยสาร เทคนิคการดูแลรถ

หลังจากลุยน้ำท่วมมา ถ้าระดับไม่สูงมาก จุดนี้ก็ไม่น่าห่วง แต่ถ้าลุยน้ำที่ค่อนข้างลึก ระดับน้ำท่วมถึงขอบประตู แนะนำให้ลองตรวจเช็กพรมที่ปูพื้นภายในห้องโดยสาร ว่ามีคราบน้ำ เปียกชื้นหรือไม่ เพราะ ถ้ามีความเปียกชื้น หรือ คราบน้ำ อาจจะส่งผลถึงอายุการใช้งานพรม รวมไปถึงกลิ่นไม่พึงประสงค์จากความอับชื้น

4.เช็กน้ำมันเครื่อง น้ำมันเบรก น้ำมันเพาเวอร์

อีกจุดที่สำคัญสำหรับน้ำมันของเหลวต่างๆ เพราะ ถ้าหากมีน้ำเข้าไปปนในระบบ อาจจะส่งผลมากมาย เช่น ประสิทธิภาพของทำงานของระบบนั้นๆ ที่จะลดลง ชิ้นส่วนในระบบนั้นๆ อาจะเกิดสนิม หรือที่แย่ไปกว่านั้นคือ น้ำที่ปนอยู่ในระบบหนึ่ง อาจจะส่งผลต่อระบบ ชิ้นส่วนอื่นๆ ให้เสียหายตามไปด้วย

วิธีการตรวจเช็ค สำหรับน้ำมันเครื่อง ให้ดึงเหล็กวัดน้ำมันเครื่องออกมาดูว่า น้ำมันที่ติดอยู่บนก้านเหล็กวัด ส่วนน้ำมันเบรก น้ำมันเพาเวอร์ ให้เปิดฝาถังพักน้ำมันดู ว่าน้ำมันมีน้ำปนอยู่หรือไม่ โดยถ้ามีน้ำปนอยู่กับน้ำมัน สีของน้ำมันจะออกเป็นสีน้ำตาลคล้ายกาแฟ หรือ มีสีขาวขุ่น เหมือนนม ถ้าเจอลักษณะแบบนี้ให้รีบเปลี่ยนถ่ายออกทันที

เทคนิคการดูแลรถ

5.เช็กเพลา เฟืองท้าย และจุดอัดจารบีต่างๆ

จุดนี้ก็เป็นอีกจุดเสี่ยงที่มักจะได้รับผลกระทบจากการลุยน้ำเป็นประจำ เนื่องจากตำแหน่งของชิ้นส่วนเหล่านี้ จะอยู่ค่อนข้างต่ำ ยิ่งถ้าระดับน้ำท่วมสูงมิดใต้ท้องรถเกินกว่าระดับท่อหายใจของเฟืองท้าย ยิ่งทำให้น้ำเข้าสู่ระบบได้ง่ายมาก ซึ่งเมื่อน้ำเข้าไปในเฟืองท้าย จะทำให้น้ำมันเสื่อมสภาพ ส่วนจุดอัดจารบีต่างๆ ก็เช่นกัน เมื่อโดนน้ำจะทำให้จารบีเสื่อมสภาพเช่นกัน

นอกจาก 5 จุดเสี่ยงที่แอดมิน นำมาแนะนำในวันนี้ ถ้าหลังจากลุยน้ำท่วม แล้วรถมีปัญหาผิดปกติ แนะนำให้นำรถเข้าศูนย์ ให้ช่างที่เชี่ยวชาญตรวจเช็ก เพื่อป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้นครับ

เทคนิคการดูแลรถ

บริการรับซื้อ รถบรรทุกมือสอง ติดต่อ ขายรถบรรทุก กับ Truck2hand

บริการ ฝากขายรถบรรทุกกับ Truck2hand ให้ทรัคทูแฮนด์ดูแลคุณ

ฝากติดตามช่อง Youtube ของ Truck2hand ฝากติดตามด้วยนะครับ Youtube Truck2Hand Official พวกเราจะอัพเดทคลิปวีดีโอ ให้แฟนๆ ได้ชมเรื่อยๆ ครับ

แต่ถ้าใครอยากได้รถตามสเปคที่อยากได้ แนะนำเข้ามาโพสหาใน ชุมชนคนซื้อขาย by Truck2hand ก็ได้นะ ในชุมชนนี้ จะมีเพื่อนๆเข้ามาโพสหาสินค้าที่อยากได้ และจะมีผู้ขายแวะเวียนเข้ามาดู ถ้าเจอโพสที่ตรงกัน ก็สามารถพูดคุย เจรจาในชุมชนนี้ได้เลยครับ

เพื่อไม่ให้พลาดข่าวสารดีๆ จาก T2H อย่าลืมแวะเข้ามาดู Blog ของเรากันบ่อยๆนะครับ blog.truck2hand.com

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

น้ำเข้ารถ ต้องทำยังไง ?

1. เอาน้ำออกจากรถให้เร็วที่สุด .. ถ้ามีน้ำขังอยู่ในรถ ต้องหาวิธีเอาน้ำออกจากรถให้เร็วที่สุด อาจจะเปิดจุกยางที่อยู่ตามพื้นรถ เพื่อให้มีช่องทางระบายน้ำออก
2. ทำให้ภายในรถแห้งเร็วที่สุด .. โดยการใช้ผ้าขนหนูซ้ำน้ำออกจากพรมและเบาะ และอาจจะสามารถใช้เครื่องดูดฝุ่นช่วยดูน้ำออกจากตัวรถได้อีกช่องทางด้วย
3. ทำให้ภายในรถหายชื้นเร็วที่สุด .. ถอดพรมพื้นรถออกจากรถ และ นำพรมออกไปตากแดด และ นำตัวรถไปจอดตากแดด เพื่อไล่ความชื้นออกจากรถให้หมด
4. หลังจากความชื้อออกไปจากตัวรถหมดแล้ว อาจจะต้องนำรถไปอบโอโซน เพื่อให้ความชื้นหรือกลิ่นไม่พึงประสงค์ออกไปให้หมด
5. หากขั้นตอน 1-4 ด้านบนนี้ ดูแล้วยุ่งยาก หรือ ไม่สะดวกทำ สามารถนำไปให้ร้าน Car Care ช่วยทำก็ได้ แต่ค่าใช้จ่ายก็อาจจะขึ้นอยู่กับร้านนั้นๆ ค่าใช้จ่ายอยู่ประมาณ 1,000บาท ขึ้นไป