1. /
    บทความ
  2. /
    ทำไม รถบรรทุก4ล้อ ถึงเป็นรถที่น่าลงทุนในยุคนี้ | เว็บบล็อก Truck2Hand - Truck2Hand.com

ทำไม รถบรรทุก4ล้อ ถึงเป็นรถที่น่าลงทุนในยุคนี้ | เว็บบล็อก Truck2Hand - Truck2Hand.com

ผู้เขียน: Thosponรถบรรทุก, สินค้ามาแรง11/10/2564
check email
แชร์
LINE
Facebook
Twitter
Pinterest
ทำไม รถบรรทุก4ล้อ ถึงเป็นรถที่น่าลงทุนในยุคนี้ | เว็บบล็อก Truck2Hand - Truck2Hand.com

ถ้าพูดถึงรถบรรทุก ก็จะทำให้นึกถึงรถบรรทุก 6 ล้อหรือไม่ก็รถบรรทุก 10 ล้อเลย แต่รู้ไหมว่ายังมีรถบรรทุกอีกชนิดหนึ่งที่หลายๆคนนั้นมองข้ามไป และถือว่ามีประโยชน์กับงานบรรทุก และขนส่งมากเลยที่เดียว นั่นก็คือ รถบรรทุก4ล้อ ใหญ่นั้นเอง หากท่านใดที่ยังไม่เข้าใจและยังนึกไม่ออกให้ท่านลองนึกถึงภาพรถบรรทุก 6 ล้อ แต่ว่ามีล้อแค่ 4 ล้อ เหมือนกับรถกระบะ แต่มีขนาดใหญ่กว่ารถกระบะนั้นเอง

รถบรรทุก 4 ล้อ นั้นเป็นตลาดนึงที่โตมากในช่วงปีที่ผ่านมา เนื่องมาจากการซื้อขายของผ่านช่องทางออนไลน์เพิ่มมากขึ้น ทั้งความคุ้มค่าที่มากกว่ารถกระบะ แม้ราคาจะแพงขึ้นแต่ความคุ้มค่าในการขนส่งก็มากขึ้นด้วยเช่นกัน ที่สำคัญคือ รถบรรทุก4ล้อ ไม่ติดเวลา แม้จะขับในเมือง สามารถขยายเวลาการทำงาน การขนส่งได้มากขึ้นและตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่รอรับของได้มากขึ้นด้วยเช่นกัน

ดังนั้นเราจะพามาดูถึงความแตกต่างของรถบรรทุก 4 ล้อกัน เผื่อท่านใดที่สนใจรถบรรทุก 4 ล้อ จะได้เลือกใช้งานให้เหมาะสมคุ้มค่ากับราคามากที่สุดนั้นเอง

เปรียบเทียบความพิเศษของ รถบรรทุก4ล้อ

  1. มีขนาดที่ใกล้เคียงกัน
    รถบรรทุก4ล้อ มีขนาดที่ใหญ่กว่ารถกระบะพอสมควร แต่ไม่ถึงระดับรถบรรทุก 6 ล้อ ในปริมาณการบรรทุกของนั้น ได้ห่างกันไม่เท่าไหร่ โดยรถประเภทนี้เป็นรถที่ถูกออกแบบมาเพื่อการบรรทุกอยู่แล้ว ดีกว่ารถกระบะตรงที่สามารถบรรทุกของได้มากกว่า ไม่ต้องเสี่ยงเกิดความเสียหายในการบรรทุกของ
  2. เหมาะสมกับการบรรทุกของ
    ปริมาตรในการบรรทุกของนั้น ใกล้เคียงกับรถบรรทุก 6 ล้อเล็ก และ มากกว่ารถกระบะตอนเดียวเกือบ 50% เลยทีเดียว
  3. มีความคล่องตัวกว่ารถบรรทุกหกล้อ
    รถบรรทุก4ล้อ มีขนาดที่ใกล้เคียงกับรถกระบะ ดังนั้นในการบรรทุกของนั้นจะมีความคล่องตัวกว่าการใช้รถบรรทุก 6 ล้อหลายเท่า สามารถวิ่งในพื้นที่แคบได้ง่ายกว่า
  4. ไม่จำกัดเวลาวิ่ง
    พื้นที่ในกรุงเทพมหานครนั้น หากจะเอารถบรรทุก 6 ล้อ ไปวิ่งในเวลาปกตินั้นเป็นสิ่งที่ต่อผิดกฎหมาย หากจะนำรถบบรทุก 6 ล้อเข้าไปได้จะต้องอยู่ในระยะเวลาและช่วงเวลาตามที่กฎหมายกำหนดไว้เท่านั้น รถบรรทุก 6 ล้อจึงไม่เหมาะกับการใช้งานในกรุงเทพมหานคร หรือในจังหวัดที่มีข้อกำหนดในลักษณะแบบนี้ แต่ถ้าหากเป็นรถบรรทุก 4 ล้อ จะไม่มีกฎหมายเรื่องนี้ ทำให้การขนส่งมีความสะดวกกว่าหลายเท่าตัว
  5. ประหยัดค่าใช้จ่าย
    เมื่อเปรียบเทียบรถบรรทุก 4 ล้อกับรถบรรทุก 6 ล้อ จะเห็นได้ชัดเจนเลยว่าในส่วนของราคาของรถบรรทุกทั้งสองประเภทนี้ มีคามแตกต่างกันมากพอสมควร เพราะด้วยขนาดของรถบรรทุกที่สามารถบรรทุกของได้มากกว่านั่นเอง แต่ถ้าหากใช้ในการขนของที่ไม่มากเกินไป ยังไงเลือกรถบรรทุก 4 ล้อ ก็คุ้มค่าอยู่ดี

รถบรรทุก4ล้อ ที่น่าสนใจ

ISUZU ELF อีซูซุ NLR 130 และ NLR Lite

ดู รถบรรทุก 4 ล้อ อีซูซุ มือสอง ทั้งหมด

ISUZU NLR 130 รถบรรทุก 4 ล้อ

สำหรับเจ้าตลาดในกลุ่มของ รถบรรทุก4ล้อใหญ่ ปัจจุบันนี้คือค่ายอีซูซุ ซึ่งในปี 2020 ที่ประสบปัญหาโควิด19 หนักๆ ยังทำยอดขายได้กว่า 3,600 คัน ซึ่งสูงกว่าปี 2019 ที่ไม่มีวิกฤตกว่า 20% ซึ่งส่วนนึงก็มาจากการเติบโตของธุรกิจ ecommerce ซึ่งส่งผลถึงความต้องการใช้รถขนส่งมากขึ้น ทำให้บริษัทขนส่งหันมาใช้รถประเภทนี้เยอะขึ้น

สำหรับ ISUZU ELF รุ่นที่ขายในปัจจุบันนั้นจะมีอู่ 2 รุ่นย่อยที่เป็นรถบรรทุก4ล้อ คือ NLR130 และ NLR Lite ที่เป็นเครื่อง 104 แรง ทั้งสองรุ่นเป็นรุ่นที่เหมาะกับการใช้ขนส่งในเมืองเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะ NLR Lite ที่มีวงเลี้ยวแคบทำให้คล่องตัวในการขับขี่ในเมือง

HINO 300 Atom

ดู รถบรรทุก 4 ล้อ ฮีโน่ มือสอง ทั้งหมด

รถบรรทุก4ล้อ Hino 300 ATOM

คู่แข่งรายใหญ่ในตลาดบรรทุกอย่าง ฮีโน่ นั้นในตลาดรถบรรทุก4ล้อนี้แม้จะทำยอดขายได้ไม่เท่า อีซูซุ แต่ก็ถือว่าไม่ได้น้อยหน้าเลยทีเดียวโดยในปี 2020 นั้นทำยอดขายไปได้ราว 1,600 คัน ซึ่งเยอะขึ้นจากปี 2019 ประมาณ 10กว่าเปอร์เซนต์เลยทีเดียว

สำหรับรถบรรทุก4ล้อ ฮีโน่รุ่นปัจจุบันที่ขายอยู่นั้นจะมี XZU Model หรือที่เรียกว่า Hino 300 Atom ที่มีแรงม้า 136 แรงม้า สามารถจดทะเบียนในพิอกัด 2.2 ตันได้ และมีระยะต่อตู้ถึง 3 เมตร เท่าๆกับ หกล้อเล็กเลยทีเดียว

เปรียบเทียบ รถบรรทุก 4 ล้อ

เมื่อนำรถรุ่นที่ขายอยู่ในตลาดปัจจุบันมาเปรียบเทียบ จะเห็นว่าเรื่องของขนาดความจุและน้ำหนักบรรทุกจะไม่ได้ต่างกันมากเท่าไร โดยฮีโน่จะบรรทุกได้มากกว่าเล็กน้อย เนื่องจากความยาวแชสซีทำให้ต่อตู้ที่ต่อได้ยาวมากกว่านั่นเอง

ในส่วนของเครื่องยนต์นั้น ฮีโน่อะตอม สามารถสร้างแรงม้าได้มากกว่าที่ 136 แรงม้า ในขฯะที่ NLR นั้นได้ 130 แรงม้า และ NLR Lite ตัวเล็กได้ 104 แรงม้า

สุดท้ายเรื่องของความคล่องตัว รัศมีวงเลี้ยวของอีซูซุสามารถเลี้ยวได้ด้วยวงเลี้ยว 5.1 เมตร ทั้งสองรุ่น ส่วนของ ฮีโน่คือ 5.5 เมตร

เปรียบเทียบ รถบรรทุก4ล้อ

และนี้เป็นอีกเคล็ดลับดีๆที่ทางทีมงาน Truck2Hand นำมาฝาก

ที่มาของเนื้อหา
https://berlininterviews.com/
www.isuzu-tis.com
www.hinothailand.com

แชร์

LINE
Facebook
Twitter
Pinterest

หมวดหมู่

รถบรรทุกสินค้ามาแรง