เรื่องน่ารู้ ทางวิทยาศาสตร์ เกี่ยวกับตัวเรา Ep.1 คุณรู้หรือไม่ ร่างกาย ของคนเรา มีความสัมพันธ์ กับธรรมชาติ สัตว์ และ สิ่งของ ลองไปดูกันว่า เรื่องน่ารู้นี้จะมีอะไรที่เรายังไม่เคยรู้มาก่อนบ้างนะ
1. มนุษย์มีพลังงานภายใน
คุณรู้หรือไม่ ร่างกายของคนผลิตกระแสไฟฟ้าได้ คนแต่ละคนจะมีพลังงานเทียบเท่ากับการเปิดหลอดไฟฟ้าขนาด 120 วัตต์ เพราะคนที่กินอาหารเข้าไปปริมาณ 2,500 แคลอรีในแต่ละวันจะให้พลังงานความร้อน 104 แคลอรีต่อชั่วโมง ซึ่งเทียบเท่ากระแสไฟฟ้าที่มีพลังงาน 120 วัตต์ เลยทีเดียว
2. กะพริบตา
คุณรู้หรือไม่ ตลอดชีวิตของคนเรานั้นเราต้องกะพริบตาถึง 250 ล้านครั้งทีเดียว เพราะเราจะต้องกะพริบตาทุก ๆ 6 วินาที ทำให้กล้ามเนื้อตาเคลื่อนไหวประมาณ 10,000 ครั้งต่อวัน ถ้าเปรียบกับการทำงานของกล้ามเนื้อขาแล้ว จะเท่ากับวิ่งระยะทาง 80 กิโลเมตรต่อวันเลยทีเดียว เพราะฉนั้น ควรนอนเมื่อถึงเวลานอน
3. สมองเจริญเติบโตขึ้นได้
คุณรู้หรือไม่ ว่าตอนแรกเกิด สมองของเรานั้น หนักประมาณ 3% ของน้ำหนักตัวเท่านั้น หรือ ประมาณ 90 กรัม : น้ำหนัก 3,000 กรัม แต่เมื่ออายุได้ประมาณ 15 ปี สมองจะหนักถึง 1,400 กรัม และ จะมีขนาดคงที่ สมองเติบโตได้เพราะใช้พลังงานจากอากาศออกซิเจน ที่เราหายใจเข้าไป 20% และใช้เลือดหล่อเลี้ยงถึง 15% ของเลือดทั้งหมดในร่างกาย
4. ท่าทางสัมพันธ์กับกระบวนการคิด
คุณรู้หรือไม่ นักวิทยาศาสตร์พิสูจน์แล้วว่า อิริยาบถต่าง ๆ มีผลต่อการคิดและการตัดสินใจของมนุษย์ การนอนคิดจะทำให้ความคิดกว้างไกล การยืนทำให้ความคิดแคบลงสามารถตัดสินใจได้เร็วขึ้น ส่วนการนั่งเป็นอิริยาบถที่เหมาะกับการตัดสินใจเรื่องสำคัญที่ไม่รีบร้อนเท่าใดนัก
5. เส้นขนแข็งแรงที่สุดตรงไหน
คุณรู้หรือไม่ โดยเฉลี่ยแล้ว คนเราจะมีเส้นขนประมาณ 5 ล้านเส้น ทั่วร่างกาย ยกเว้นบริเวณริมฝีปาก ฝ่ามือและฝ่าเท้า เส้นขนเหล่านี้ ที่แข็งแรงที่สุดคือหนวด เชื่อหรือไม่ว่าหนวดแข็งแรงพอ ๆ กับลวดทองแดงที่มีขนาดเท่ากันเลยทีเดียว
6. ตาแหลมคม เป็นพิเศษ
คุณรู้หรือไม่ ตาของเหยี่ยวสามารถมองเห็นแมลงวันที่อยู่ในระยะครึ่งไมล์ได้สบาย ส่วนเสือดาวก็สามารถมองเห็นคนกะพริบตาที่ระยะห่าง 100 หลาได้ ตาของคนก็มีความพิเศษเช่นเดียวกัน เพราะสามารถแยกแยะความแตกต่างของสีได้มากถึง 17,000 สี ยิ่งกว่ากล้องราคาแพงๆ เสียอีก ธรรมชาติล้วนๆ
7. มนุษย์มีสามตา!
คุณเชื่อหรือไม่ ว่ามนุษย์มีสามตา อย่าเพิ่งตกใจ ตาที่สามนี้ก็คือต่อมไพเนียลซึ่งอยู่ด้านหลังของกะโหลกศีรษะ ภายในต่อมมีสารเคมีที่มีชื่อว่าเซโรโตนินอยู่เป็นจำนวนมาก เชื่อกันว่า สารชนิดนี้ช่วยส่งผลให้มนุษย์มีการคิดอย่างสมเหตุสมผล นักวิทยาศาสตร์จึงเปรียบต่อมนี้ว่าเป็นตาที่สามของมนุษย์
8. ฮัดเช้ย!
คุณรู้หรือไม่ เมื่อมีสิ่งแปลกปลอมเข้ามาทำให้จมูกของเราเกิดการระคายเคือง เราจะจามออกมาโดยอัตโนมัติ ทุกครั้งที่เราจามจะมีน้ำลายฟุ้งกระจายออกมาถึง 100,000 หยด ด้วยอัตราเร็ว 152 ฟุตต่อวินาที ละอองการจามพุ่งกระจายได้ไกลถึง 8 เมตร! ทั้งยังสามารถล่องลอยอยู่ในอากาศได้นานหลายนาทีอีกด้วย ละอองสารคัดหลั่งขนาดใหญ่ (Larger droplets) อย่างน้ำลาย หรือน้ำมูก โดยปกติแล้วจะร่วงลงพื้นทันทีในรัศมี 1-2 เมตร หลังจากจาม หรือไอ ซึ่งจะไม่ล่องลอยปะปนอยู่ในอากาศ ละอองสารคัดหลั่งขนาดเล็ก (Smaller droplets) มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า แพร่ออกไปได้ไกลกว่าละอองสารคัดหลั่งขนาดใหญ่ และล่องลอยปะปนอยู่ในอากาศได้นานหลายนาทีไปจนถึงชั่วโมง ไวรัส ไม่น่ากลัว สิ่งที่น่ากลัวคือผู้ที่นำไวรัสมาให้เรา เพราะฉนั้น ควรสวมหน้ากากอนามัย ตลอดเวลาที่ อยู่ใกล้กับผู้อื่น
9. ริมฝีปาก
เคยสงสัยกันหรือไม่ ครับว่าทำไมริมฝีปากของเราจึงมีสีแดงมากกว่าส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย ที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะผิวหนังบริเวณริมฝีปากบางกว่าส่วนอื่น ๆ นั่นเอง จึงทำให้สามารถมองเห็นสีของเลือดใต้ผิวหนังได้
10. สยามเมืองยิ้ม
คุณรู้หรือไม่ ร่างกายของเราประกอบด้วยกล้ามเนื้อประมาณ 650 มัด หากเราหน้าบึ้งจะต้องใช้กล้ามเนื้อประมาณ 400 มัด ในขณะที่การยิ้มใช้กล้ามเนื้อ แค่ 15 มัด เท่านั้น และพลังงานที่ใช้ก็น้อยกว่าการขมวดคิ้ว 1 ครั้งเสียอีก เชื่อกันว่าการขมวดคิ้ว 200,000 ครั้ง ทำให้เกิดรอยตีนกาถาวร 1 รอย เรื่องน่ารู้ ทางวิทยาศาสตร์ เกี่ยวกับตัวเรา Ep.1 โปรดติดตามตอนต่อไป
เพื่อไม่ให้พลาดข่าวสารดีๆจากเราอย่าลืมแวะเข้ามาดู Blog ของเราบ่อยๆกันนะครับ
https://blog.truck2hand.com/
ที่มาข้อมูล : https://teen.mthai.com/variety/61063.html