รถยนต์ไฟฟ้า ดีแค่ไหน สะดวกไหมถ้าใช้ในไทยตอนนี้ ในปัจจุบัน รถยนต์ไฟฟ้า หรือที่หลายคนเรียกกันว่ารถ EV (Electric Vehicle) นั้นกำลังได้รับความสนใจเพิ่มมากขึ้น จากแรงจูงใจหลาย ๆ ด้านไม่ว่าจะเป็นด้านสิ่งแวดล้อม หรือด้านเศรษฐกิจ ที่ทำให้รถยนต์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้าขับเคลื่อนเริ่มเข้ามามีบทบาทมากขึ้น ในตลาดยานพาหนะ และ เป็นที่จับตาของผู้คนมากมาย เพื่อเป็นการไม่ตกเทรนด์ ดังนั้น Truck2Hand จะพามาทำความรู้จัก รถยนต์ไฟฟ้า ให้มากขึ้นกัน
รู้จักรถยนต์ไฟฟ้า
รถยนต์ไฟฟ้า คันแรกของโลกนั้นมีมาตั้งแต่ช่วงศตวรรษที่ 19 แล้ว แต่ด้วยเหตุผลหลายประการทำให้รถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้ายังไม่เป็นที่นิยมอย่างจริงจังจนกระทั่งถึงศตวรรษที่ 21 นี้ กระแสของการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมตื่นตัวไปทั่วโลกด้วยวิกฤตการต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นภาวะโลกร้อน หรือมลภาวะ PM2.5 รวมทั้งราคาน้ำมันโลกที่พุ่งสูงขึ้นทำให้รถยนต์แบบไฟฟ้านั้นถูกผลักดันมาเป็นตัวเลือกให้กับคนรุ่นใหม่มากขึ้น
หลักการทำงานของเจ้ารถยนต์ที่ใช้พลังไฟฟ้า คือ ใช้พลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่เพียงอย่างเดียว จึงไม่มีการปล่อยไอเสียและไม่สร้างมลพิษ ต่างจากรถยนต์ที่ใช้น้ำมันเป็นเชื้อเพลิงซึ่งมีเครื่องยนต์ระบบสันดาปภายใน ก่อเกิดการปล่อยควันนั่นเอง
โดยรถยนต์ไฟฟ้า สามารถชาร์จไฟได้สม่ำเสมอเมื่อแบตเตอรี่หมด ผ่านทางที่ชาร์จภายในบ้านหรือสถานีชาร์จไฟ โดยใช้เวลาประมาณ 6-8 ชั่วโมงในการชาร์จปกติ หรือ 2-4 ชั่วโมงในการชาร์จผ่านแทนชาร์จเร็ว ทั้งนี้รถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าจะมีองค์ประกอบหลัก ๆ ได้แก่ แบตเตอรี่ มอเตอร์ขนาดใหญ่ และอุปกรณ์แปลงกระแสไฟฟ้า โดยตัวแปลงจะดึงพลังงานจากแบตเตอรี่ไปเป็นพลังงานไฟฟ้ากระแสสลับและส่งต่อไปยังมอเตอร์เพื่อให้เกิดการขับเคลื่อน สามารถทำให้รถวิ่งได้อย่างน้อย 300 กิโลเมตรขึ้นไป
ระบบการชาร์จ รถยนต์ไฟฟ้า
ในการชาร์จรถยนต์แบบไฟฟ้านั้นมีอยู่ 3 แบบ คือ
1. การชาร์จแบบธรรมดา (Normal Charge)
เป็นการชาร์จไฟฟ้าจากการต่อจากเต้ารับภายในบ้านโดยตรง มิเตอร์ไฟของบ้านต้องสามารถรองรับกระแสไฟฟ้าขั้นต่ำ 15(45)A และเต้ารับไฟในบ้านต้องได้รับการติดตั้งใหม่ เป็นเต้ารับเฉพาะการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า เนื่องจากการชาร์จรถยนต์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้าไม่สามารถใช้เต้ารับแบบธรรมดาได้ การชาร์จในลักษณะนี้มักจะเป็นการชาร์จแบบไฟฟ้ากระแสสลับ จึงใช้ระยะเวลาในการชาร์จประมาณ 12-15 ชั่วโมง
2. การชาร์จแบบรวดเร็ว (Double Speed Charge)
จากเครื่องชาร์จ Wall Box ที่เป็นตู้ชาร์จไฟฟ้ากระแสสลับ (AC Charging) อย่างเช่น ตู้ชาร์จติดผนังติดตั้งที่บ้านหรือตามห้างสรรพสินค้า สำหรับการชาร์จแบบนี้ระยะเวลาการชาร์จจะลดลงอยู่ที่ประมาณ 4-7 ชั่วโมง โดยการชาร์จด้วยตู้ชาร์จติดผนังสามารถชาร์จได้รวดเร็วกว่าการต่อจากเต้ารับภายในบ้านโดยตรง
3. การชาร์จแบบด่วน (Quick Charge)
เป็นการชาร์จไฟฟ้าด้วยไฟฟ้ากระแสตรง (DC Charging) ซึ่งสามารถชาร์จแบตเตอรี่รถยนต์พลังงานไฟฟ้า จาก 0% ไปจนถึง 80% ได้ในเวลา 40-60 นาที เหมาะกับสถานการณ์ที่ต้องการความรวดเร็วในการชาร์จ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาเร่งด่วน
นอกจากการชาร์จแบบต่าง ๆ แล้ว ยังมีปัจจัยอื่น ๆ ที่ส่งผลต่อการชาร์จรถยนต์พลังงานไฟฟ้าด้วย อาทิ ความจุของแบตเตอรี่ ยิ่งมีความจุมากก็ยิ่งใช้เวลามาก, ระดับกระแสไฟฟ้าที่เหลืออยู่ในแบตเตอรี่ หากระดับไฟฟ้าเหลืออยู่ต่ำก็จะใช้เวลาชาร์จนานขึ้น, กำลังไฟฟ้าสูงสุดที่รถยนต์รองรับ ยิ่งรถยนต์ของเพื่อน ๆ มีรับรองกำลังไฟฟ้าสูงเท่าไร ความเร็วในการชาร์จก็จะยิ่งมีมากขึ้นเท่านั้น, ค่ากำลังไฟฟ้าสูงสุดของเครื่องชาร์จหรือจุดจ่ายไฟ ในทางกลับกัน หากจุดจ่ายไฟฟ้ามีกำลังต่ำกว่าที่รถยนต์รองรับได้ก็จะใช้เวลานานขึ้นอีก และสุดท้ายคือสภาวะอากาศ ยิ่งอุณหภูมิภายนอกสูงมากเท่าไรก็จะส่งผลต่อการชาร์จให้นานขึ้น
ข้อดีของรถยนต์ไฟฟ้า
1. มอเตอร์ไฟฟ้าสามารถให้แรงบิดได้ทันที
ทำให้รถยนต์ไฟฟ้ามีอัตราเร่งที่เรียบและเร็ว เหนือกว่าเครื่องยนต์ที่ใช้น้ำมันด้วยไม่ต้องใช้ระบบทดเกียร์ รวมถึงไม่มีการปล่อยควันพิษมาจากท่อไอเสียด้วย
2. เสียงเครื่องยนต์
เสียงเครื่องยนต์ของรถยนต์พลังงานไฟฟ้าเงียบกว่ารถยนต์ทั่วไปหลายเท่า เนื่องจากไม่ต้องใช้ระบบการสันดาปและเกิดการเผาไหม้ภายในห้องเครื่องยนต์
3. ประหยัดค่าใช้จ่ายและซ่อมบำรุง
ด้วยไม่ต้องมีการเติมน้ำมัน เพราะใช้พลังงานไฟฟ้าซึ่งมีค่าใช้จ่ายที่ถูกกว่าเชื้อเพลิงต้นทุนสูงอย่างน้ำมัน ทั้งยังไม่ต้องมีการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องทำให้ประหยัดค่าซ่อมบำรุงได้อีกด้วย
4. ประหยัดเวลาที่ใช้เติมเชื้อเพลิง
เพราะสามารถทำได้ในขณะที่จอดทิ้งไว้เฉย ๆ ที่บ้าน หรือตามสถานีชาร์จที่มีไว้ให้บริการระหว่างเพื่อน ๆ ไปทำธุระ เมื่อกลับมาก็จะมีรถยนต์ที่พลังงานเต็มพร้อมสำหรับการใช้งานทันที
ข้อด้อยของรถยนต์ไฟฟ้า
ทว่านอกเหนือจากข้อดีที่กล่าวมา รถยนต์ไฟฟ้าก็ยังมีข้อจำกัดอยู่อีกหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น
1. เรื่องระยะการขับ
ด้วยความจุของตัวแบตเตอรี่ไฟฟ้านั้นสามารถพาให้รถวิ่งไกลได้เฉลี่ย 160 – 200 กิโลเมตร เท่านั้น
2. จุดชาร์จไฟฟ้ายังไม่ทั่วถึง
ทั้งยังมีจุดชาร์จไฟฟ้าสำหรับรถยนต์ประเภทนี้ที่ยังไม่ครอบคลุมทั่วถึง ทำให้เพื่อน ๆ อาจต้องคิดหนัสำหรับการขับรถทางไกล
3. เทคโนโลยีใหม่ยังมีราคาแพง
อีกทั้งในตอนนี้รถยนต์พลังงานไฟฟ้ายังมีตัวเลือกไม่มาก ทั้งยังต้องใช้เทคโนโลยีระดับสูงในการผลิตทำให้รถยนต์ประเภทนี้ยังคงมีราคาแพงอยู่นั่นเอง
สามารถหาจุดชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าได้ที่ไหนบ้าง
จุดชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าในกรุงเทพ
จากที่เราได้กล่าวมาบ้างแล้วว่าทั้งทางค่ายของบริษัทผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเองก็ได้มีการติดตั้งสถานีชาร์จไฟฟ้าเพื่อให้บริการกับผู้ขับขี่อยู่หลายจุด นอกจากนี้ก็ยังมีการอำนวยความสะดวกจากโครงการต่าง ๆ ที่เริ่มให้ความสำคัญกับรถยนต์ประเภทนี้มากขึ้น อาทิ ห้างสรรพสินค้า หรือโครงการอสังหา ฯ ด้านที่อยู่อาศัยหลายแห่ง และบริษัทผลิตสถานีให้บริการแท่นชาร์จไฟฟ้าต่าง ๆ มาดูกันดีกว่าว่ามีจุดชาร์จที่ไหนใกล้กับเพื่อน ๆ บ้าง
- สถานนีอัดปะจุไฟฟ้้า ของการไฟฟ้านครหลวง (MEA) เขตบางเขน
- EV Charging จากค่ายรถยนต์นิสสัน
- VIRTA Charging Station เขตราชเทวี
- EV ANYWHERE สาขาสยามสแควร์
- Charge Now by BMW สาขาเซ็นทรัล แกรนด์ พระราม 9
นอกจากตัวอย่างทั้ง 5 ที่เราได้ยกมากล่าวนี้ก็ยังมีสถานีชาร์จ รถยนต์ไฟฟ้าอีกมากมายให้เพื่อน ๆ สามารถค้นหาได้ตามแผนที่เพื่อเข้าใช้บริการตามจุดบริการที่ใกล้ที่สุดได้เลย
จุดชาร์จ รถยนต์ไฟฟ้า ในต่างจังหวัด
แน่นอนว่าในกรุงเทพนั้นผู้ให้บริการสถานีอัดประจุไฟฟ้าเพื่อชาร์จรถยนต์ไฟฟ้านั้นย่อมแย่งกันผุดสถานีให้บริการกันราวดอกเห็นอยู่แล้วเนื่องจากความหนาแน่นของประชากร แต่หากเพื่อน ๆ ต้องเดินทางออกต่างจังหวัดล่ะ จะยังมีสถานีเหล่านี้คอยให้บริการกระแสไฟฟ้ากับรถยนต์ไฟฟ้าของเราหรือเปล่า มาดูกัน
- ChargeNow by BMW สาขาปั๊มน้ำมันปตท. สระบุรี
- EV Charging จากค่ายรถยนต์นิสสัน
- VIRTA Charging Station สาขาข้างคณะวิศวกรรมศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
- EA ANYWHERE สาขาสิงห์บุรี
- PEA EV-Charging Station สาขาการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จังหวัดนครราชสีมา
ถึงแม้ว่าปัจจุบันสถานีอัดประจุไฟฟ้าสำหรับชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าในต่างจังหวัดจะยังไม่ครอบคลุมมากนัก ทำให้เพื่อน ๆ อาจจะต้องวางแผนการเดินทางกันให้ดีเสียก่อน ไม่อย่างนั้นอาจเกิดปัญหาระหว่างทางได้ และหากพลังงานหมดระหว่างทางเราไม่สามารถหาแกลลอนไปเติมกระแสไฟฟ้าแล้วนำมาเติมใส่รถได้อย่างน้ำมันเชื้อเพลิงทั่วไปได้ ดังนั้นก่อนออกเดินทางให้ตรวจสอบเส้นทางและจุดให้บริการของสถานีอัดประจุไฟฟ้าให้ดีก่อนเสียด้วย เพื่อความรวดเร็วและปลอดภัยในการเดินทางของเพื่อน ๆ เอง และเชื่อว่าอีกไม่นานนี้ในต่างจังหวัดจะมีการสร้างสถานีบริการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นจนครอบคลุมทั้งประเทศ ให้เพื่อน ๆ ได้อุ่นใจ รวมถึงเป็นการผลักดันให้รถยนต์ไฟฟ้าเข้ามามีบทบาทมากขึ้น
ผลจากการใช้รถยนต์ไฟฟ้า
รถยนต์ไฟฟ้า ดีแค่ไหน สะดวกไหมถ้าใช้ในไทยตอนนี้ คำถามเดิมๆ ที่กล่าวมาทั้งหมดดูเหมือนว่ารถยนต์ไฟฟ้านั้นจะมีแต่ข้อดีเต็มไปหมด ทั้งนี้ก็ต้องอย่าลืมว่าแม้รถยนต์ชนิดนี้จะไม่ปล่อยไอเสียหรือควันพิษออกสู่โลกภาพนอกแล้ว แต่ก็ยังมีการใช้พลังงานไฟฟ้าซึ่งต้องผลิตมาจากโรงไฟฟ้าอีกหลายแหล่งอยู่ดี ในอนาคตหากมีการใช้รถยนต์ไฟฟ้ากันมากขึ้น ไม่แน่ว่าการจ่ายกระแสไฟของภาครัฐอาจไม่เพียงพอ และทำให้ต้องก่อสร้างโรงงานผลิตกระแสไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้น ซึ่งอาจก่อให้เกิดปัญหาอีกหลายอย่างตามมา อันนี้ก็เป็นอีกเรื่องที่ควรจับตามอง อีกทั้งในการชาร์จไฟฟ้าก็ยังมีค่าใช้จ่ายอยู่ดี แม้จะเป็นค่าใช้จ่ายที่ถูกกว่าน้ำมันเชื้อเพลิงก็ตาม ทว่าก็ควรคำนวณรายจ่ายในส่วนนี้ให้ดีด้วยเพื่อที่จะได้ไม่เป็นภาระภายหลัง
รถยนต์ไฟฟ้า ตัวเลือกแสนสบายใจของคนใส่ใจสิ่งแวดล้อม
จากที่ได้พูดถึงระบบการทำงานและข้อดีต่าง ๆ ของรถยนต์ไฟฟ้าแล้ว ทางเราก็เชื่อว่าคงมีเพื่อน ๆ ที่เป็นสายรักษ์โลกไม่มากก็น้อยกำลังยกให้รถยนต์ชนิดนี้เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งในใจ ถึงแม้ว่าต้อนนี้จะยังมีเพียงไม่กี่ค่ายที่พัฒนารถยนต์ไฟฟ้า แต่ด้วยแนวโน้มของการกระตุ้นกระแสรักษาสิ่งแวดล้อมของชาวโลกจะเป็นแรงผลักดันให้บริษัทผลิตรถยนต์ค่ายต่าง ๆ หันมาริเริ่มโครงการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้นอย่างแน่นอน รวมถึงหากได้ความร่วมมือจากภาครัฐก็จะยิ่งทำให้เรามีตัวเลือกในการเลือกซื้อสินค้ามากขึ้น ในราคาของรถยนต์ประเภทนี้ที่ถูกลงด้วย อีกทั้งรถยนต์ไฟฟ้าที่จะผลิตออกมาในภายภาคหน้าจะต้องมีสมรรถนะที่ก้าวล้ำมากกว่ารถยนต์ในตลาดตอนนี้อย่างแน่นอน หากเพื่อน ๆ ยังไม่พร้อมที่จะจับจองเป็นเจ้าของในตอนนี้ก็ไม่เป็นไร อดใจรอรถยนต์ไฟฟ้าพร้อมนวัตกรรมใหม่ๆ ในภายภาคหน้า (อันใกล้) นี้ก็ยังไม่สายจนเกินไป ถึงเวลานั้นทางเราหวังว่าเพื่อน ๆ ทุกคนจะได้รถยนต์ไฟฟ้า ที่ถูกอก ถูกใจ มาไว้ในครอบครองกัน
เพื่อไม่ให้พลาดข่าวสารดีๆจากเราอย่าลืมแวะเข้ามาดู Blog ของเราบ่อยๆกันนะครับ https://www.truck2hand.com/blogs/