ขับรถหลังฉีดวัคซีนโควิด ได้ไหมนะ ?
จริงแล้วๆ ไม่ได้มีผลการทดสอบที่ชัดเจน ว่าผู้รับวัคซีนโควิดไปแล้วสมรรถภาพในการขับขี่จะลดลงหรือไม่ แล้ว ขับรถหลังฉีดวัคซีนโควิด ได้ไหม? นั้นขึ้นอยู่กับการสังเกตอาการข้างเคียงหลังจากรับวัคซีน
ในส่วนของคำแนะนำของหลายโรงพยาบาลนั้น แนะนำว่าควรมีผู้ติดตามในการเดินทางด้วย ดีกว่าการขับรถไปคนเดียว และที่สำคัญคือการนั่งสังเกตอาการอย่างน้อย 30 นาทีหลังจากฉีดวัคซีนเป็นเรื่องที่จำเป็นครับ เพราะผู้รับวัคซีนอาจมีอาการข้างเคียง เช่น เวียนศรีษะ อ่อนเพลีย ซึ่งมีโอกาสเกิดขึ้นไป และ มีส่งผลต่อสมรรถภาพการขับขี่ด้วยครับ
การเดินทางโดยขนส่งสาธารณะก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีในการเดินทางไปฉีดวัคซีน เช่นเดียวกับการเลือกสถานที่ฉีดที่เดินทางไปกลับได้อย่างสะดวกก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญ ในกรณีที่สามารถเลือกได้นะครับ
ถ้าจำเป็นต้อง ขับรถหลังฉีดวัคซีนโควิด ทำยังไงดี
หากเลี่ยงการขับรถไปฉีดวัคซีนไม่ได้จริงๆ ควรนั่งดูอาการก่อนอย่างน้อย 30 นาที จนมั่นใจแล้วจึงสตาร์ทรถกลับบ้านได้ครับ
กรณีที่ไม่ไหจริงๆ และเป็นอาการข้างเคียงแบบไม่รุนแรง ควรกินยาแก้ปวด และ ดื่มน้ำมากๆ และให้เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์มาช่วยดูแลต่อไป ยังไม่ควรรีบขับรถกลับทันทีครับ
สรุปว่า…
ดังนั้นหากถามว่า ขับรถหลังฉีดวัคซีนโควิด ได้ไหม? คงตอบว่าขึ้นอยู่กับอาการของผู้รับวัคซีนนั่นแหละครับ ว่าไหวไหม แต่เป็นไปได้เราก็ไม่แนะนำนะครับ
ข้อควรปฏิบัติหลังฉีดวัคซีนโควิด
ข้อควรปฏิบัติหลังฉีดวัคซีนโควิด ต้องทำอย่างไร ต้องสังเกตอาการยังไง ต้องปฏิบัติตัวอย่าไรบ้าง เป็นคำถามที่หลายๆคนอยากรู้คำตอบครับ ซึ่งวันนี้ผมเอาข้อมูลจากหลายๆแหล่งมาแชร์ให้รับทราบกัน จะได้ปฏิบัติตัวกันถูกครับ
ณ วันที่ผมกำลังเรียบเรียงบทความนี้อยู่ การฉีดวัคซีนโควิด-19 ก็กำลังดำเนินการไปอย่างรวดเร็วมากขึ้นเรื่อยๆนะครับ ข้อมูล ณ วันที่ 8 มิถุนายน 2564 ฉีดไปแล้วกว่า 5 ล้านโดส และถ้าจะให้ครบ 100 ล้านโดสก่อนสิ้นปีนี้ตามเป้า ต้องฉีดอีก 94 ล้านโดสโดยประมาณนะครับ หวังว่าหลายๆท่านจะได้ฉีดกันในเร็วๆนี้นะครับ
สิ่งที่ต้องรู้หลังการฉีดคือเรื่องของอาการข้างเคียงที่อาจจะเกิดขึ้น ต้องประเมิณว่าแบบไหนรุนแรง แบบไหนไม่ และ แน่นอนว่าการดูแลตัวเองหลังการฉีดก็สำคัญเช่นกัน งั้นไปดูกันเลยครับ
สังเกตอาการข้างเคียง 30 นาทีแรก
อย่างที่ได้ย้ำไปว่าหลังฉีดวัคซีนสิ่งที่ควรทำที่สุดคือ สังเกตอาการข้างเคียงอย่างน้อย 30 นาทีหลังจากฉ๊ดวัคซีนและสังเกตอาการข้างเคียง โดย แบ่งออกได้2ประเภทนะครับ คือ ชนิดไม่รุนแรง และ ชนิดรุนแรง
ส่วนใหญ่จะพบอาการที่ไม่รุนแรง โดยสามารถหายเองได้โดยกินยาแก้ปวด ดื่มน้ำ พักผ่อนให้เพียงพอ ส่วนอาการบวมแดงบริเวณที่ฉีดให้ประคบเย็นบริเวณที่ฉีดยา ส่วนอาการอาเจียน ให้ดื่นน้ำเกลือแร่เพื่อลดอาการอ่อนเพลีย
ส่วนอาการข้างเคียงรุนแรง แนะนำให้พบแพทย์ทันที
หลังจากดูอาการครบ 30 นาที จะต้องวัดความดันโลหิตอีกครั้งก่อนกลับ และเมื่อกลับบ้านแล้วยังต้องสังเกตอาการของตัวท่านเองต่ออีก 48-72 ชั่วโมง
สำหรับอาการที่ไม่รุนแรงนั้นมักมีอาการไม่เกิน 48 ชั่วโมงก็จะหายไป แต่ถ้ามีอาการที่นานกว่านั้นแนะนำให้พบแพทย์โดยเร็ว
สำหรับการไปพบแพทย์นั้น ต้องนำบัตรฉีดวัคซีนไปด้วยนะครับเพื่อให้แพทย์ทราบข้อมูลอย่างครบถ้วน
หลังจากฉีดวัคซีนแล้วสามารถปฏิบัติกิจวัตรได้ตามปกติ แต่ยังต้องสังเกตอาการอีกประมาณ 30 วัน และ อยู่ห่างจากผู้อื่น สวมหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ จนกว่าการฉีดวัคซีนจะครอบคลุมประชากรส่วนใหญ่ได้ครับ
การกินยาแก้ปวด
กรณีที่มีไข้หรือปวดเมื่อยมาก ให้รับประทานยาแก้ปวดพาราเซตามอลขนาด 500 มิลลิกรัม ได้ 1 เม็ด และรับประทานซ้ำโดยห่างกัน 6 ชั่วโมง
ที่สำคัญคือห้ามรับประทานยาพวก Brufen, Arcoxia, Celebrex เด็ดขาด
สุดท้ายนี้หวังว่าทุกท่านจะได้ฉีดวัคซีนในเร็ววันนี้นะครับ ดูแลสุขภาพให้แข็งแรง และ ปลอดภัยกันด้วยนะครับ
ติดตามข่าวสารดีได้ที่ https://blog.truck2hand.com/
ที่มา